Monday, August 8, 2016

เข้าใจพระพุทธศาสนาภายใน 10 นาที

เข้าใจพระพุทธศาสนาภายใน 10 นาที

1. พระพุทธเจ้าตรัสรู้อะไร ? 
อริยสัจ 4 คือ 
ทุกข์ คือความไม่สบายกาย ไม่สบายใจ 
สมุทัย คือเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ 
นิโรธ คือความดับทุกข์ 
มรรค คือข้อปฏิบัติเพื่อความดับทุกข์ 

2. พระพุทธเจ้าทรงสอน
เรื่องอะไร ? 
ทุกข์กับการดับทุกข์ 

3. ภาพรวมของพระพุทธศาสนา .... มีดังนี้ 
3.1 ให้มองโลกตามความ
เป็นจริง (จริงขั้นสมมุติ=สมมุติสัจจ์, 
จริงแท้=ปรมัตถสัจจ์) อาทิ
ตัวเรามีอยู่ แต่หาใช่ตัวตน
ที่แท้จริงไม่ 

3.2 ให้ถือทางสายกลาง
ทางตึง (ทรมานกายให้ลำบาก) ก็ดี, ทางหย่อน (ฟุ้งเฟ้อหลงใหล มัวเมา) ก็ดี, มิใช่แนวทางของพระพุทธศาสนา 
แนวทางของพระพุทธศาสนา คือ มรรคมีองค์ 8 ทางสายกลางพอดี ๆ 

3.3 ให้พึ่งตนเอง
มิใช่พึ่งเทวดา โชคชะตาราศี หรือ ดวงดาว ฤกษ์ยาม 

3.4 ไสยศาสตร์ การบนบานศาลกล่าว อ้อนวอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ การดูฤกษ์ยาม การเจิม ฯลฯ มิใช่พุทธศาสนา 

3.5 สิ่งทั้งหลายเกิดขึ้นตามเหตุปัจจัย (อิทัปปัจจยตา) มิใช่เกิดขึ้นเองลอย ๆ หรือพรหมลิขิต การจะดับทุกข์ได้ต้องดับที่เหตุ 

3.6 โอวาทที่เป็นหลักเป็นประธาน (โอวาทปาฏิโมกข์) คือ ให้ละชั่ว ทำกุศลให้ถึงพร้อม และทำจิตให้บริสุทธิ์ 

3.7 สิ่งทั้งหลายอยู่ภายใต้กฎของไตรลักษณ์ คือ อนิจจัง, ทุกขัง, อนัตตา
แม้พระนิพพาน ก็เป็นอนัตตาเช่นกัน หาใช่อัตตาตัวตนไม่ 

3.8 ให้เชื่อในหลักธรรม คือ ทำดี-ได้ดี, ทำชั่ว-ได้ชั่ว
ให้ทำตนอยู่เหนือดี เหนือชั่วนั่นแหละ จึงจะพบนิพพาน (คือเหนือกรรม) 

3.9 จุดหมายสูงสุดของพระพุทธศาสนา คือนิพพาน (ได้แก่สภาวะจิตที่สงบเย็น ปราศจากทุกข์) 

3.10 สรุปธรรมทั้งปวง รวมลงในเรื่องเดียว คือ "ความไม่ประมาท" 

4. การศึกษาธรรมะ 2 สมัย 
4.1 สมัยปัจจุบัน คือ รู้จัก กับ รู้จำ .... อาศัยการฟัง อ่านค้นคว้า จึงมีความรู้อยู่ในสมองและในสมุด พูดธรรมะได้คล่องแต่ปฏิบัติไม่ค่อยได้ จึงได้ผลน้อย 
4.2 สมัยพุทธกาล คือ รู้แจ้ง ... โดยเมื่อฟังและจำแล้ว ก็จะลงมือปฏิบัติ ทำจริงในขณะนั้นทันที ทำให้เกิดผลเป็นความรู้แจ้งเรื่องชีวิต ดับทุกข์ในขณะนั้นทันที

5. วิธีศึกษาพระพุทธศาสนา 
เมื่อแรกพุทธปรินิพานนั้น สิ่งที่พระพุทธองค์ทรงสั่งให้ถือเอาเป็นศาสดาแทนพระองค์ มีเพียง 2 คือ ธรรมและวินัย
หลังจากนั้นมา 300 ปี จึงเกิดมีพระไตรปิฎกขึ้น (สุตตันตปิฎก วินัยปิฎก และอภิธรรมปิฎก) ..... บัดนี้ล่วงกาลมาถึง 2500 กว่าปี คำสอนเดิม ขั้นปรมัตถ์ค่อย ๆ หายไป หมดไป เกิดมีคำสอนใหม่ ๆ เป็นพุทธศาสนาเนื้องอกจับใส่พระโอษฐ์ ว่าเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นอันมาก 
ดังนั้นในการศึกษาพระพุทธศาสนาพึงอาศัยหลักดังนี้
– ด้านปริยัติ (ความรู้เนื้อหา) 
ให้อ่าน ฟัง คิด วิจัย ให้เข้าใจคือให้ปฏิบัติได้จริง .... หากสงสัย ให้อาศัยหลักกาลามสูตรเข้าพิจารณาตัดสิน มิใช่เชื่อไปเสียหมด 
– ด้านปฏิบัติ 
การปฏิบัติทุกอย่างของพระพุทธศาสนาไม่ว่าการทำทาน รักษาศีล ภาวนา พระพุทธองค์ทรงสอนให้ ทำเพื่อ "ละกิเลส" มิใช่เพื่อเอา หวังได้นั่นได้นี่ อันทำให้ยิ่งเพิ่ม โลภะ โทสะ โมหะ ซึ่งหาใช่พุทธศาสนาไม่ 
ทุกวันนี้ไหว้เพื่อเอา เพื่อขอ ทำบุญเพื่อเอาสวรรค์ นิพพาน หวังผลทั้งชาตินี้ชาติหน้า ซึ่งจะกลายเป็นพอกกิเลสยาวนาน 
– ด้านปฏิเวธ (ผล) 
ทำเพื่อละ จะพบนิพพาน (จิตบริสุทธิ์ มีความสะอาด สว่าง สงบ) แต่ถ้าทำเพื่อเอา จะพบกิเลสในตนพอกพูนยิ่งขึ้น ๆ ยาวนาน และยิ่งมีทุกข์มาก .... ดังนั้น จงมุ่งปฏิบัติเพื่อห่างไกลทุกข์โดยส่วนเดียว ให้ได้เห็นผลด้วยตนเอง (สันทิฏฐิโก) 

6. จะศึกษาพุทธศาสนาได้
ที่ไหน ? 
ให้ศึกษาในร่างกายของเราเองนี้ ที่ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ มิใช่จะต้องศึกษากับพระ และในวัดวาอารามเท่านั้น 
จึงควรศึกษาตนเอง อย่ามัวแต่ศึกษานอกตัว หรือมัวติดอยู่แค่พิธีกรรม หรือได้แต่ทำตาม ๆ เขาไป จะเสียทีที่ได้มีโอกาสเกิดมาพบพระพุทธศาสนา ได้ลิ้มรสแค่เปลือกกระพี้ มิได้ชิมรสอันเป็นเนื้อใน อันได้แก่ธรรมรสของความเย็นอกเย็นใจ (นิพพาน) 

7. เหตุแห่งทุกข์และ
การดับทุกข์ 
เหตุเกิดจากอุปทาน คือ การเข้าไปยึดถือว่า นี่คือ 
ตัวตนของเรา นี่ของๆ เรา
การดับ โดยละอุปทานเสีย 
(โดยพยายามปฏิบัติให้ "เห็นอนัตตา") จะโดยบังคับจิตเป็นสมาธิ (เจโตวิมุตติ) หรือโดยพิจารณาธรรมด้วยปัญญา (ปัญญาวิมุตติ) ก็ได้ 

8. พุทธพจน์ "ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา" 
คำว่า "เห็นธรรม" คือ เห็นปฏิจจสมุปบาท คือ วงจรที่ทุกข์เกิด และดับ โดยเริ่มต้นจากอวิชชา จนเกิดทุกข์ 

9.จุดหมายสูงสุดของ
พระพุทธศาสนา คือ นิพพาน 
(สภาวะจิตที่สงบเย็น)
ปราศจากกิเลส เครื่องร้อยรัดทั้งปวง (ชาวบ้านพูดว่า เย็นอก เย็นใจ) หาพบได้ที่ใจตัวเอง 

10. สรุป ... ทุกข์เกิดขึ้นที่จิต พึงรักษาจิตให้เป็นประภัสสรไว้เสมอ ระวังการกระทบ (ผัสสะ) ทางตา หู ฯลฯ ให้ดี มีสติรู้ทันว่า…เห็นสักว่าเห็น ได้ยินสักว่าได้ยิน อย่าให้เวทนา ตัณหา เกิดได้ แล้วท่านจะพบความสงบเย็นตลอดเวลา 
ความทุกข์เกิดขึ้นที่จิต เพราะเห็นผิดเมื่อผัสสะ ... ความทุกข์จะไม่โผล่ ถ้าไม่โง่เมื่อผัสสะ ... ความทุกข์เกิดไม่ได้ ถ้าเข้าใจเรื่องผัสสะ

..... (จากธรรมสมโภช 80 ปี พุทธทาสภิกขุ) .....

What can we learn from shortcuts? | Tom Hulme



Download

Why you think you're right -- even if you're wrong | Julia Galef



หลักฐานชัด ความไม่ชอบมาพากลของการนับคะแนนประชามติ เครดิต กลุ่มปชต.ใหม่



EU ว่าไง เรื่องการออกเสียงประชามติในกะลาแลนด์

แถลงการณ์โดยโฆษกของนางเฟเดริกา โมเกรินี ผู้แทนระดับสูงของสหภาพยุโรปและรองประธานคณะกรรมาธิการยุโรป เรื่องการออกเสียงประชามติเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญในประเทศไทย

เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม คณะกรรมการการเลือกตั้งได้รายงานว่า จากการลงประชามติ ประชาชนชาวไทยเป็นส่วนใหญ่ได้ออกเสียงเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตามในช่วงระยะเวลาของการรณรงค์ ได้มีข้อจำกัดที่เข้มงวดเป็นอย่างมากต่อเสรีภาพขั้นพื้นฐานซึ่งรวมไปถึงการห้ามจัดการอภิปรายและจัดการรณรงค์
มันเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ที่การจำกัดเสรีภาพในปัจจุบันทั้งในด้านการแสดงออกและการชุมนุมนั้นถูกยกเลิก เพื่อให้สามารถมีกระบวนการทางการเมืองที่เปิดเผย มีส่วนร่วม และมีความรับผิดชอบ ทางสหภาพยุโรปยังคงเรียกร้องอย่างต่อเนื่องให้รัฐบาลไทยสร้างสภาวะที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง เพื่อที่นำไปสู่การเลือกตั้งทั่วไปอย่างรวดเร็ว ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องหลักทุกส่วนในประเทศไทยจำเป็นที่จะต้องเข้าร่วมการอภิปรายอย่างมีส่วนร่วมและทำงานร่วมกันอย่างสันติ เพื่อนำไปสู่จุดมุ่งหมายนี้

----
Statement by the RVP Spokesperson on the constitutional referendum in Thailand 



On 7 August, the Election Commission reported that, in a national referendum, a large majority of the people of Thailand have voted in favour of the proposed constitution. During the campaign period, however, there were serious limitations to fundamental freedoms, including restrictions on debate and campaigning.

It is essential that the current restrictions on freedom of expression and assembly are lifted to allow for an open, inclusive and accountable political process. The EU continues to call upon the Thai authorities to create the conditions for a genuine democratic transition leading to early general elections. All main stakeholders in Thailand need to engage in an inclusive dialogue and work together peacefully towards this aim.

ระยำแล้ว!! สปท.หนุนร่วมจ่ายค่าหมอ เสนอเพิ่มภาษีทางตรง ขึ้นเพดานประกันสังคม เก็บ VAT เอ็นจีโอ หนุนค่ารักษาพยาบาล

สปท.หนุนร่วมจ่ายค่าหมอ 08 สิงหาคม 2559 เวลา 09:29 น. |

เสนอเพิ่มภาษีทางตรง-ขึ้นเพดานประกันสังคม-ขอเก็บแวตเอ็นจีโออุดหนุนค่ารักษาพยาบาล คณะอนุกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปการสาธารณสุข....... อ่านต่อได้ที่ : http://www.posttoday.com/social/health/447325



“ช่วยกันส่งต่อด้วยครับช่วยกันส่งต่อครับ ... รธน.นี้ผ่าน "ประชาชนได้ประโยชน์ตรงไหน ?

"ช่วยกันส่งต่อด้วยครับช่วยกันส่งต่อครับ  ... รธน.นี้ผ่าน "ประชาชนได้ประโยชน์ตรงไหน ? "

(1) นิรโทษกรรม คสช. ทั้งอดีต ปัจจุบัน อนาคต สิ่งใดทำผิดกฎหมายก็ถือว่าพ้นผิด เรื่องราวการทุจริตของรัฐบาล คสช. จะเอาผิดไม่ได้ 

ประชาชนได้ประโยชน์ตรงไหน? คำตอบคือไม่ได้

(2) ผู้บัญชาการทุกเหล่าทัพ จะได้ตำแหน่ง ส.ว. อัตโนมัติ กินเงินเดือน 2 ตำแหน่ง และคอยกำกับ ส.ว. ทั้งหมด (250 คน) ให้อยู่ใต้อำนาจ คสช. 

ประชาชนได้ประโยชน์ตรงไหน? คำตอบคือไม่ได้

(3) ทหารต้องการรัฐธรรมนูญนี้ เพราะต่อไปในอนาคตจะไม่ต้องเสี่ยงข้อหากบฏ ม.113 เข้ามารัฐประหาร ก็สามารถยึดอำนาจได้ทันที

ประชาชนได้ประโยชน์ตรงไหน? คำตอบคือไม่ได้

(4) คนไทยบางคนจะใช้บัตรทองไม่ได้ เพราะ "สิทธิเสมอกัน" ในทางสาธารณสุขหายไป

ประชาชนได้ประโยชน์ตรงไหน? คำตอบคือไม่ได้

(5) ทหารที่ร่ำรวยผิดปกติ สนช. สปช. สปท. ที่มีทรัพย์สมบัติมากมายหลังยึดอำนาจ จะไม่ต้องถูกตรวจสอบ และถ้ามีการทุจริตของทหาร "ยึดทรัพย์ไม่ได้" เพราะมีกฎหมายล้างผิด

ประชาชนได้ประโยชน์ตรงไหน? คำตอบคือไม่ได้

(6) หลังรัฐธรรมนูญนี้ผ่าน คสช. จะยังมีมาตรา 44 ที่ทำอะไรก็ได้ อยู่ในมือ สามารถล้มการเลือกตั้งได้ สามารถโกงได้ สามารถฉีกรัฐธรรมนูญหรือแก้ไขตามใจชอบได้ จนกว่าจะมีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เข้ามาบริหารประเทศ แน่นอนว่ามันไม่ยอมง่ายๆ

ประชาชนได้ประโยชน์ตรงไหน? คำตอบคือไม่ได้

แค่นี้ก็พอจะเห็นแล้วว่า ทำไม? บรรดาแม่ทัพนายกองใน คสช. พวกคนดีใน สนช. สปท. ถึงเชียร์ให้คนรับ ทั้งอดีตแกนนำม็อบนกหวีด พุทธะอิสระ ถึงเรียงหน้าสามัคคีออกมา เรียกหาประชาชนเป็นเครื่องมือเพื่อรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับ คสช. แล้วประชาชนจะยอมเป็นเครื่องมือให้เขาอีกไหม ?