Tuesday, July 19, 2016
Monday, July 18, 2016
การทุบวัดป่าของพุทธ มีจริงหรือ?

เรื่องที่เกิดขึ้นจริงโดย นายกรณ์ มีดี เลขาธิการสมาพันธ์ชาวพุทธแห่งประเทศไทย
นายกสมาคมทางสายกลาง
วัดป่าหลวงตามหาบัว (วัดเสือ) วัดผาซ่อนแก้ว วัดถ้ำเนรมิต และสำนักปฏิบัติธรรมอีกมากมาย
2. วัดป่าหาย พร้อม พระนักปฏิบัติธรรมหาย
3. พระนักปฏิบัติธรรมหาย ญาติโยมก็หาย
5. เมื่อไม่มีการปฏิบัติธรรมกรรมฐาน ศาสนาพุทธก็ด้อยค่าลง
6. เมื่อศาสนาพุทธด้อยค่าลง ก็เริ่มหมดคนนับถือ
8. เมื่อศาสนาอื่นประกาศความเป็นใหญ่ ชาวพุทธก็หร่อยหรอ
10. และพระพุทธศาสนาอันสมบัติที่ตกทอดมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ที่ท่านสืบทอดต่อๆ มา อาจสูญสิ้นในยุคพวกเรา
ชีวิตในเมืองไทยภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน
ชำแหละรัฐธรรมนูญโจร ยกประเทศให้นายทุน!!!!
อำนาจที่เบ็ดเสร็จ ก่อเกิดฉ้อฉลที่เด็ดขาด
============
ศูนย์ข่าวภาคใต้ - ผู้ประสานงานเครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหิน โพสต์เฟซบุ๊กจวกอำนาจรัฐหลังรัฐธรรมนูญผ่าน ชี้เป็นไปตามแผนยึดประเทศใส่พานให้กลุ่มทุน ขณะเดียวกัน กลับลิดรอนสิทธิของประชาชน เชื่อเป็นรัฐธรรมนูญฉบับอภิมหาโคตรโกง แทนที่จะเอาจริงเรื่องปราบโกง
วันนี้ (13 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายประสิทธิชัย หนูนวล ผู้ประสานงานเครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหิน ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า "ชีวิตหลังรัฐธรรมนูญผ่าน ผมเชื่อว่าปัญหานี้ไม่อยู่ในหัวของคนไทยสักเท่าไหร่แต่สำหรับผมมันคือการเปลี่ยนกติกาประเทศที่สำคัญที่สุด เพื่อการมุ่งสู่เป้าหมายได้อย่างสบายใจของคนกลุ่มหนึ่งเคยอ่านรัฐธรรมนูญไหมครับ จะลงประชามติกันแล้ว 7 ส.ค.นี้
1.เป้าหมายของรัฐธรรมนูญฉบับนี้คือ การสร้างกติกาให้บรรลุยุทธศาสตร์ 20 ปีของประเทศ ยุทธศาสตร์นี้ยังไม่ออกมา แต่สำหรับผมมันคือยุทธศาสตร์ยึดประเทศ ด้วยกลไกของประชารัฐ ไม่เชื่อมาถล่มผมได้เลย รัฐบาลที่ได้มาในชุดหน้ามีหน้าที่ต้องผูกพันกับการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ดังกล่าวอันนี้เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญนะครับ ผูกมัดกันถึงขั้นนี้นะครับ
2.รัฐธรรมนูญฉบับนี้จัดการที่มาของผู้ถืออำนาจรัฐ หรือคนที่จะมาเป็นรัฐบาลแบบเบ็ดเสร็จ นั่นหมายความว่า ต่อให้มีพรรคการเมืองใดได้เสียงข้างมากก็ไม่อาจเป็นนายกรัฐมนตรีได้ เพราะนายกรัฐมนตรีจะต้องมาจากการลงมติของรัฐสภา ซึ่งหมายถึง ส.ว.250 ซึ่ง คสช.กุมการเลือกมาเอง ส.ส. 500 คน รวม 750 คน ต้องใช้เสียง 2 ใน 3 ของรัฐสภาโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี นึกภาพออกยังคับว่า ที่มาของนายกถูกจัดการเรียบร้อยแล้ว ยังมีที่มาของการเสนอชื่อนายกที่บล็อกกันไว้อย่างดีตามอ่านดูนะครับ
3.เมื่อได้นายกฯ มาแล้วมีแนวโน้มสูงที่จะถูกควบคุมให้เป็นไปตามที่ต้องการ เพราะนายกฯ จะถูกเอาออกแบบง่ายๆ ด้วยการออกแบบศาลรัฐธรรมนูญให้เป็นซูเปอร์องค์กร สามารถถอดถอนนายกฯ ด้วยมาตรฐานทางจริยธรรม ซึ่งมาตรฐานทางจริยธรรมมีคำถามว่าใครเขียน รัฐธรรมนูญฉบับนี้กำกับรัฐบาลอย่างเข้มงวด เพื่อประโยชน์อะไรนะเหรอ กลับไปอ่านข้อ 1 ครับ
4.นอกจากกำกับที่มา และการบริหารของนายกแล้ว สิ่งที่เป็นอุปสรรคอีกอย่างหนึ่งของการเดินตามยุทธศาสตร์ของกลุ่มประโยชน์ คือ การเติบโตของประชาชน เพราะฉะนั้นรัฐธรรมนูญฉบับนี้จึงจัดการสิทธิของประชาชน ให้ทุกอย่างเป็นหน้าที่ของรัฐ! โดยเฉพาะการจัดการทรัพยากร ก่อนหน้านี้จึงอย่าได้แปลกใจที่มีการใช้ ม.44 จัดการกับทรัพยากรของชาติเอื้อกลุ่มทุนอย่างมโหฬาร
5.รัฐธรรมนูญฉบับนี้ปราบโกงนะเหรอ ลองใช้สติพิจารณากันเองนะครับ กลไกที่เบ็ดเสร็จเด็ดขาด ลิดรอนสิทธิเช่นนี้จะนำไปสู่การอภิมหาโคตรโกง หรือว่าจะนำไปสู่การปราบโกง 6.อ่านดีดีนะครับถ้าได้รัฐธรรมนูญมาแล้ว ว่ามันคือเกมแห่งการสืบทอดอำนาจ เพราะกลไกการยึดประเทศของกลุ่มทุน 2 ปี ของ คสช.ไม่เพียงพอ ต้องใช้เวลาอีก จึงไม่แปลกที่จะมีการสืบทอดอีกสัก 5 ปี
7.ชีวิตหลังรัฐธรรมนูญผ่านจะเป็นอย่างไรนะเหรอ มันบัดซบไงครับ แต่ไม่เป็นปัญหาสำหรับมนุษย์ที่สามารถเป็นครึ่งคนครึ่งหุ่นยนต์ได้ เพราะคุณจะถูกทำให้เป็นเพียงมนุษย์บนสายพานการผลิตเท่านั้นหลังจากนี้ไม่เกิน 4 ปี ค่อยมาขยายความกันต่อครับ
แผนชั่ว คสช.กับการโกงประชามติ (เครดิต Sa-nguan Khumrungroj)
#อย่านึกว่าโลกนี้ไม่มีความลับนะจ๊ะ
เช้านี้ ผู้บริหารระดับสูงของทีวีช่องหนึ่งนำข่าวนี้มาฝาก
บอกว่าอีติ๋มแห่งกกต.ได้เรียกทีวีดิจีตอลทุกช่องมาประชุมกับเขา เกี่ยวกับวิธีรายงานผลคะแนนประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับมีชัย มา 2 รอบแล้ว
โดยอีติ๋มจะให้รายงานผลเป็น เปอร์เซนต์รายจังหวัดแทน
แล้วให้ถ่ายเอาจากที่กกต.ขึ้นจอโปรเจคเตอร์เท่านั้น(ลักษณะแบบทีวีพูลที่ดูจนเบื่อหลังเคารพธงชาติ)
อย่างนี้ ประชาชนถูกมัดมือชกแน่นอน
นี่คือลักษณะคะแนนที่จะรายงานหน้าจอ เพราะปกติจะเลือกตั้งหรือประชามติ คนดูต้องเห็นคะแนนที่นับเป็นเขต แล้วเขาจะเผยแพร่หลัง 6 โมงเย็นโน่นเลย
พวกไปประชุมเขาเถียงไม่ได้เพราะต้องพึ่งคะแนนจาก กกต.มารายงานข่าว แต่ถ้าแบบนี้มันส่อว่ามีอะไรแน่ๆ
เปอร์เซนต๋ไว้ดูทีหลัง ทำไมต้องไม่ให้เห็นคะแนนหลังปิดหีบ
แล้วดูแบบที่มันเลือกสิ สื่อสารยาก คำถามที่1 /ที่2
แทนที่จะเขียน รับ/ไม่รับร่างรธน หรือ คำถามพ่วงสว.เลือกนายกได้
เอาเงินภาษีไปละเลง เกือบ 3 พันล้าน
แต่ผลงานห่วยแตก
ต้องมี เงี่ยนงำ แน่ๆ
(สำนักข่าวหงวน จัดให้)
แอพแรกที่คุณเลือก เนติวิทย์ เปิดศึก ม.จ.จุลเจิม แชร์ข้อความ เป็นมะเร็งร้ายแห่งจุฬาฯ โดย http://hilight.kapook.com/view/139614
เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล นิสิตคนดัง ออกแชร์โพสต์ของ ม.จ.จุลเจิม บุคล หลังมองว่าเป็นมะเร็งร้ายแห่งจุฬาฯ พร้อมเชิญชวนเพื่อนนิสิตที่คิดเห็นเหมือนกัน เข้าไปแสดงความคิดเห็น ให้เลิกการหมอบกราบ
หลังจากที่ก่อนหน้านี้ เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล นิสิตคนดังแห่งคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้มีการโพสต์ข้อความ แสดงความไม่เห็นด้วยในเรื่องการหมอบกราบ พิธีถวายสัตย์เข้าเป็นนิสิตของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมกับตั้งคำถามว่าเหตุใดจึงยังคงมีการหมอบกราบ ทั้งที่รัชกาลที่ 5 ได้ยกเลิกธรรมเนียมดังกล่าวไปแล้ว (อ่านเพิ่มเติม เนติวิทย์ ถาม ทำไมยังมีการหมอบกราบถวายสัตย์เป็นนิสิต ทั้งที่ ร.5 ยกเลิกนานแล้ว)
ล่าสุด (18 กรกฎาคม 2559) นายเนติวิทย์ ก็ได้ออกมาแชร์ข้อความของ ม.จ.จุลเจิม ยุคล ที่ได้โพสต์ภาพพระเกี้ยว สัญลักษณ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมกับท่อนหนึ่งจากเพลง มหาจุฬาลงกรณ์ ที่ร้องว่า "ขอตราพระเกี้ยวยั้งยืนยง นิสิตประสงค์เป็นธงชัย ถาวรยศอยู่คู่ไทย เชิดชัย ชโย" และแคปชั่นว่า
"ขอเป็นกำลังใจให้กับ ศิษย์ปัจจุบัน และศิษย์เก่าในการต่อสู้กับมะเร็งร้ายใน จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย ความสง่างาม เกียรติยศ และศักดิ์ศรี ความสามารถ และคุณงามความดี ที่ค้ำจุนประเทศไทย มา 100 ปี คงไม่มีความสกปรกโสมมใด ๆ มาทำให้แปดเปื้อนได้....ม.จ. จุลเจิม ยุคล"
ด้านเนติวิทย์ ได้แชร์ข้อความดังกล่าวออกไป และบอกว่า มะเร็งร้ายกันเลยทีเดียวนะครับ ไม่เป็นไร มันแล้วแต่มุมมอง แล้วแต่ภูมิคุ้มกันจริงๆ
อย่างไรก็ดี ฝากถึงท่านชายยุกะลา ผมเขียนหนังสือเล่มใหม่ ถึงท่านไม่ชอบผม ซื้อไปลองอ่านสนับสนุนสักสิบเล่ม ก็ไม่น่าเสียหายอะไร ลิงค์นี้เลยครับ http://goo.gl/forms/3tC8Hjq6p73JA4Aj2)"
นอกจากนี้ เนติวิทย์ ยังได้ออกมาโพสต์ข้อความ เชิญชวนเพื่อน ๆ นิสิตแสดงความคิดเห็น ต่อพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนเป็นนิสิต และบอกให้ อบจ. หรือ องค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (อบจ.) รับทราบถึงพระบรมราชโองการของรัชกาลที่ 5 เรื่องการหมอบคลาน
ด้าน นายกิตติธัช ชัยประสิทธิ์ อาจารย์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ยังได้ออกมาพูดเกี่ยวกับประเด็นนี้ว่า เป็นความจริงที่รัชกาลที่ 5 ทรงรับสั่งให้มีการยกเลิกการหมอบกราบ แต่ใช้สำหรับพิธีราชการ แต่ในแง่ของวัฒนธรรมยังคงทำได้ เช่น การกราบพ่อแม่ กราบพระ และในสังคมตะวันตก หรือกระทั่งสังคมญี่ปุ่น ก็ยังคงมีพิธีการแสดงความเคารพอยู่ เช่น ในสังคมญี่ปุ่น ก่อนที่จพทำการชงชานั้น จะมีการแสดงความเคารพต่อเครื่องชงชา หรือทุกครั้งที่เพลง Messiah ของ George Frideric Handel ถูกเล่นขึ้นในโรงละคร ชาวตะวันตกก็จะมีการลุกขึ้นเพื่อแสดงความเคารพ
"- แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนที่แสดงความเคารพด้วยใจ แต่พวกเขาก็รู้ว่ามันเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของสังคม และตามมารยาททางสังคมเค้าก็พร้อมจะให้ความร่วมมือ ไม่มีใครมานั่งแสดงท่าทีต่อต้าน ยียวน แล้วก็ดูถูกคนอื่น หาว่าคนที่เข้าร่วมพิธีเป็นคนโง่ ทำตามกัน ไร้สมอง ฯลฯ"




