Wednesday, May 11, 2016
อ ชูพงศ์ 11 พ ค 2559 ตอน สามเรื่องใหญ่ ก่อน คสช ล่มสลาย
"เป้าหมายการปฏิวัติแบบ มดแดงล้มช้าง ราษฎรเสรีไทย" โดย ดร.เพียงดิน รักไทย
"เป้าหมายการปฏิวัติแบบ มดแดงล้มช้าง ราษฎรเสรีไทย"
http://youtu.be/Np_5yG9sh0Y
โดย ดร.เพียงดิน รักไทย
First Draft (January 21, 2015)

ขอให้พี่น้องที่สนใจ ร่วมแต่งเติม วิพากษ์ และแสดงความเห็นได้เต็มที่ครับ
ขอนั่งคิดดัง ๆ เรื่องทิศทางข้างหน้านะครับ ขบวนปฏิวัติในใจผม จะมีเป้าหมายระดับต่าง ๆ ปน ๆ กันดังนี้ และเมื่อกรอบยุทธศาสตร์ด้านต่าง ๆ เหล่านี้ เข้าที่เข้าทางแล้ว ก็จะมีการจัดการเพื่อให้เกิดผลทั้งในภาวะปัจจุบัน ระยะการเปลี่ยนอำนาจ ระยะเปลี่ยนผ่าน และการวางรากฐานถาวรต่อไป
หนึ่ง กำจัดอำนาจกษัตริย์ที่ยุ่งกับการเมืองการปกครองอย่างสิ้นเชิง หากยอมอยู่แบบอังกฤษหรือญี่ปุ่น (ควรจะน้อยกว่าด้วย) ไม่ได้ ก็ไม่ต้องมีสถาบันกษัตริย์ การปกครองจะไม่ใช่ Constitutional Monarchy แต่จะเป็น People's Democratic State หรือ Republic เท่านั้น ไม่มีสร้อย
สอง อำนาจกษัตริย์ที่มีอยู่ในเชิงเศรษฐกิจ การทหาร การปกครอง วัฒนธรรม การศึกษา ศาสนา และอื่น ๆ จะต้องถูกตัดออกให้สิ้น ยกตัวอย่าง เช่น ทรัพย์สินที่มีอยู่จะต้องตกเป็นของแผ่นดิน จะเอาไปเป็นของส่วนตัวไม่ได้ การลงทุนในธุรกิจต่าง ๆ ทุกระดับ จะต้องถูกดึงมาเป็นของหน่วยงานรัฐ ที่ให้ผลประโยชน์คืนกลับเป็นเงินภาษีอากรของประชาชให้หมด โดยการกินอยู่ จะมีการจัดการให้สมกับฐานะ และต้องตัดองคมนตรี และข้ารับใช้ที่รกรุงรังออกไปให้หมด โครงการหลวงต่าง ๆ จะต้องถูกถ่ายโอนไปให้ตัวแทนฝ่ายบริหารรับผิดชอบต่อไป ฯลฯ
สาม การรัฐประหารจะเกิดขึ้นอีกไม่ได้ และจะต้องไม่มีการนิรโทษกรรมได้อีก โทษของผู้ก่อการและสนับสนุน จะต้องสูงถึงขั้นประหารชีวิต และรัฐบาลเฉพาะกิจจะลงสัตยาบันรับธรรมนูญกรุงโรม เพื่อรับอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศโดยด่วนทันที
สี่ สัมปทานน้ำมันและทรัพยากรอื่น ๆ ที่ได้เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา จะต้องถูกเรียกคืนและพิจารณาใหม่ทั้งหมด หากต้องจ่ายชดเชยคืนก็ทำไป เพื่อให้สัปทานต่าง ๆ ผ่านขั้นตอนโดยตัวแทนของประชาชน ที่มาจากการเลือกตั้งภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับถาวรแห่งชาติจะเป็นผู้พิจารณาขั้น ตอนการดำเนินงานและการตัดสินผลประโยชน์เพื่อให้ประโยชน์สูงสุดเกิดขึ้นกับ ประชาชนและประเทศชาติ
ห้า จะต้องมีการปฏิวัติวัฒนธรรม ศาสนา และการศึกษาขนานใหญ่ เพื่อให้ความงมงายและความเป็นไทยที่เป็นพิษที่ซ่อนอยู่ในสังคมไทยถูกถอนออก ไปให้หมด เพื่อให้พลเมืองไทยยกระดับเป็นอารยชน และสามารถพัฒนาศักยภาพของตนให้สูงสุด เพื่อแข่งขันและอยู่ร่วมกับชาวโลกอย่างสันติสุขและก้าวหน้าอย่างดีที่สุด
หก ที่ดินและการจัดเก็บภาษีแบบก้าวหน้าที่คนรวยทรัพย์สินเงินทอง จะต้องเสียภาษีให้มาก จะต้องถูกปฏิวัติใหม่ เพื่อให้เกิดการกระจายพื้นฐานการผลิตและโอกาสในการสร้างความมั่งคั่งให้กับ ปัจเจกชนและชาติโดยรวม คนทั่วประเทศจะต้องอยู่ดีกินดี ให้สมกับการเป็นแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์บนชัยภูมิที่ได้เปรียบ
เจ็ด โครงการต่าง ๆ ที่รัฐบาลเผด็จการศักดินาราชาธิปไตยได้ทำไว้ จะถูกแขวนไว้ทั้งหมด แล้วจัดให้มีการเจรจาใหม่ทั้งหมด เพื่อหาทางแก้ไขการเสียเปรียบและดำเนินการใหม่เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด แก่ประเทศชาติ
แปด จะพัฒนาการศึกษาไทย เพื่อเป้าหมายให้ไทยเป็นศูนย์กลางการศึกษาโลก โดยยกเอาความสำเร็จของประเทศที่ได้กำไรจากการเป็นศูนย์กลางการศึกษาเช่น สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ออสเตรเลีย เป็นต้น เป้าหมายระยะสั้น ภายในห้าปี ประเทศไทยจะต้องมีดัชนีด้านการศึกษาเป็นสามอันดับต้นของอาเซี่ยน
เก้า สังคมไทยจะต้องถูกปฏิวัติให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ สังคมเปิดเพื่อการเข้าใจสังคมเพื่อบ้านและสังคมโลก การเคารพหลักสิทธิมนุษยชน และการประยุกต์สังคมพุทธและจุดแข็งของสังคมไทย ให้เข้ากับหลักสากล โดยมีการศึกษาวิจัยแล้วกำหนดเป็นเป้าหมายเชิงคุณภาพของพลเมืองไทยอย่าง ชัดเจน เพื่อเป็นวาระแห่งชาติ แล้วใช้ทุกปัจจัยทุ่มพัฒนาให้เกิดผลที่จับต้องได้ในระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว
สิบ หลักการประชาธิปไตยแบบสากล จะต้องถูกนำมาเป็นเสาหลักของประเทศชาติ สืบทอดไปถึงลูกหลานอย่างสมบูรณ์แบบ การให้การศึกษาแก่พลเมืองทุกหมู่เหล่า ถึงผลดีของการเป็นสังคมประชาธิปไตยและหน้าที่ที่ประชาชนจักพึงมี และอื่น ๆ จะต้องทำอย่างเป็นระบบ สิ่งที่ผ่านมาจะต้องถูกนำมาสรุปเป็นบทเรียน เพื่อให้การปฏิวัติเกิดผลอย่างเด็ดขาด ไม่ให้วงจรอุบาทว์กลับมาทำร้ายประเทศไทยได้อีก
สิบเอ็ด การจัดการกับคอรัปชั่นจะต้องทำอย่างจริงจัง โดยประชาชนจะต้องมีบทบาทในการร่วกำกับอย่างเป็นแก่นสาร ระบบราชการทั้งพลเรือน ทหารตำรวจ และการเมือง จะต้องถูกปฏิวัติเพื่อตัดกลไกการคอรัปชั่นอย่างถึงรากถึงโคน
สิบสอง ประเทศไทยจะเป็นประเทศที่เน้นการค้าขายและร่วมมือกับทุกประเทศ การให้เกียรติและปกป้องมิตรประเทศให้ทำมาหากินอย่างมั่นใจจะถือเป็นภารกิจ สำคัญ โดยไม่ให้ประเทศไทยเสียเปรียบใคร
สิบสาม ประเทศไทยจะต้องวางเป้าหมายเป็นศูนย์กลางการค้าและบริการ การแพทย์ การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและส่งเสริมธรรมชาติ การเป็นครัวโลก การสร้างศูนย์ดูแลผู้สูงวัย ฯลฯ โดยจะต้องทุ่มทุนให้กับการวิจัยและการวางแผนเพื่อความเป็นเลิศในทุกด้าน เพื่อต่อยอดจุดแข็งทุกจุดของชาติ
สิบสี่ จะต้องมีการพัฒนาทรัพยากรบุคคลและการลงทุนด้านพลังงานและทรัพยากรธรรมชาติ อย่างจริงจัง โดยเป้าหมายคือการเพิ่มมูลค่าจากการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อให้งบประมาณการบริหารประเทศไทยต้องเพิ่มเป็นสองเท่าของงบประจำปี ปัจจุบัน คืออย่างน้อย ต้องมีเงินบริหารประเทศปีละ 4 ล้านล้านบาทเป็นเบื้องต้น ในเวลาไม่เกินสองปี
สิบห้า เมื่อคณะปฏิวัติประชาชนได้อำนาจมาแล้ว จะต้องนิรโทษกรรมคนไทยทุกหมู่เหล่า โดยอาศัยประชามติของประชาชนไทย หลังจากที่มีการตัดสินอย่างเป็นธรรมแล้ว และผู้กระทำความผิดได้แสดงออกอย่างชัดเจนในที่สาธารณะแล้วว่า สำนึกผิดแล้ว และคณะปฏิวัติจะต้องให้ประชาชนมีส่วนร่วมและอนุมัติกรอบการบริหารประเทศร่วม กันโดยเร็วภายในไม่เกินสองปี และจะต้องให้ทุกเรื่องเข้าที่เข้าทางและมีรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนถาวรเพื่อ เป็นเสาหลักที่มั่นคงในที่สุด
นอกเหนือจากนี้ ควรให้ประชาชนที่เป็นแนวร่วมการปฏิวัติเปลี่ยนระบอบ ได้มีส่วนร่วมรับรู้และปรับปรุงหรือแต่งเติมเป้าหมายการปฏิวัติข้างบนให้มาก ที่สุดนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
Tuesday, May 10, 2016
ชาวไทยในสหรัฐอเมริกา ยื่นขอความเป็นธรรมให้หลวงพ่อธัมมชโย
ตอนนี้มี 105 ประเทศที่ลงชื่อร่วมทบทวนสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย
ม็อบมีเส้น กับ ภารกิจมาร ฟอกขาวพรรคพวกตน!!!
การยึดสนามบินดอนเมือง สุวรณภูมิคือม็อบมีเส้น
ม็อบมีเส้นไม่มีทางติดคุก แต่ถ้าม็อบมีเส้นติดคุกรับรองได้ว่างานนี้มีแฉ
..............
ข้อเสนอล่าสุดของ นายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธานคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท. เรื่องการช่วยไม่ให้การยึดสนามบินดอนเมือง สุวรรณภูมิ เมื่อเดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม 2551 ไม่ต้องติดคุกนั้นไม่เกินความคาดหมาย
ดู
สปท.จ่อชง พ.ร.บ.รอกำหนดโทษ ให้ ชุมนุมปิดสนามบิน-ถนน เจตนาไม่ร้ายแรง รอดคุก
http://www.matichon.co.th/news/129095
เอาเข้าจริงบรรดาผู้นำพันธมิตร ก็ไมได้เดือดร้อนอะไร เพราะเวลาผ่านมา 8 ปี บรรดาผู้นำ พันธมิตร ไม่เคยมีใครต้องติดคุกจากการกระทำดังกล่าวแม้แต่คนเดียว
พยานพันธมิตรฯไม่ครบ เลื่อนคดีปิดสนามบินไปปี59
http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx…
แน่นอนว่าไม่ใช่เพราะเขาโชคดี แต่พวกเขามี "พระดี" ต่างหาก
................
เอาเข้าจริงกระบวนการยึดสนามบินดอนเมือง สุวรรณภูมิ ในเดือนพฤศจิกายน - ธันวาคม 2551 ไม่ได้เป็นการยึดสนามบินเท่านั้น
แต่เป็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองขนานใหญ่ของชนชั้นนำฝ่ายอำมาตย์ โดยมีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่นำโดยสนธิ ลิ้มทองกุล เป็นหัวหอก เพื่อโค่นล้มรัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์ จากพรรคพลังประชาชนและมีจุดมุ่งหมายในการเปลี่ยนขั้วทางการเมือง
จึงไม่แปลกใจว่าการปิดสนามบินสุวรรณภูมิ คือการชงลูกให้ศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคพลังประชาชน-มัชฌิมาธิปไตย - ชาติไทย และตัดสิทธิทางการเมืองของกรรมการบริหารพรรคทั้ง 3
ดู
อวสาน! พรรคพลังประชาชน - มัชฌิมาธิปไตย - ชาติไทย
http://hilight.kapook.com/view/31550
นำมาสู่การเปลี่ยนขั้วทางการเมืองของกลุ่มเนวิน ชิดชอบ จนสามารถตั้งรัฐบาลในค่ายทหารเพื่อให้อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี
จนเป็นตราบาปมาหลอกหลอนพรรคประชาธิปัตย์มาจนถึงปัจจุบัน
ดู
'มาร์ค-เทือก'โต้ ไม่เคยทำ ตั้งรัฐบาลในค่าย
http://www.thairath.co.th/content/178609
ข้อสรุปที่ชัดเจนที่สุดของการยึดสนามบินในปี 2551 จากปากของพล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในขณะนั้น ได้กลายเป็น วาทะแห่งปี คือ "ม็อบมีเส้น"
ดู
"ทุกคนก็ทราบดีว่าม็อบนี้เป็นม็อบมีเส้น หากเป็นม็อบธรรมดาเรื่องจบไปนานแล้ว" ทำให้หลังจากนั้นเป็นต้นมาคำว่า "ม็อบมีเส้น" กลายเป็นข้ออ้างที่ฝ่ายรัฐบาลภายใต้การนำของพรรคพลังประชาชนนำมาใช้ในการโจมตีกลุ่มพันธมิตร
เบื้องหลังที่มา สื่อตั้ง 10ฉายาสภา "ม็อบมีเส้น-ค่ายกลนอมินิ-2ก๊กพกมีดสั้น-ทั่นเปาเป่าปี่-ปธ.ลูกอุ้ม"
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1230443159
ดังนั้นเมื่อเป็นม็อบมีเส้น ก็จะไม่มีใครในหมู่ผู้นำ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่นำโดยสนธิ ลิ้มทองกุล ต้องเข้าคุกแม้แต่วันเดียวในคดีนี้
เปิด 79 รายชื่อ พันธมิตรยึดสนามบิน โดนหมายเรียก
http://hilight.kapook.com/view/50426
ที่พูดเช่นนี้ได้ เพราะว่า ถ้าม็อบมีเส้นติดคุกรับรองได้ว่างานนี้มีแฉ
แล้วเราก็จะได้เห็น
"วิกิลีกส์ฉบับท่าพระอาทิตย์"
หรือ "พระอาทิตย์เปเปอร์" แน่นอน
Monday, May 9, 2016
ใช้ ม.44 โอนที่สาธารณประโยชน์นครพนม1.86 พันไร่ เป็นเขต ศก.พิเศษให้เอกชนเช่าระยะยาว
มติคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ (กนพ.) โอนที่สาธารณประโยชน์ "โคกภูกระแต" จังหวัดนครพนม พื้นที่ 1.86 พันไร่ ให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ ดันราคาที่ดินพุงภึงไร่ละ 10 ล้านบาท เตรียมให้เอกชนเช่าระยะยาว (ที่มาภาพจาก: landactionthai)
5 มี.ค. 58 เว็บไซต์ฐานเศรษฐกิจรายงานว่า จากมติคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ (กนพ.) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เมื่อวันที่ 18 มกราคมที่ผ่านมาได้เห็นชอบให้ที่สาธารณประโยชน์ "โคกภูกระแต" จังหวัดนครพนม พื้นที่ 1.86 พันไร่ จากทั้งหมด 2.9 พันไร่ เป็นนิคมอุตสาหกรรม ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดนครพนม เพื่อสนับสนุนให้การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) และ ภาคเอกชนเช่าพื้นที่ระยะยาวในราคาถูกที่ต้องใช้มาตรา 44 ตามร่างกฎหมายรัฐธรรมนูญชั่วคราวพ.ศ.2557 ถอนสภาพโอนเป็นที่ราชพัสดุให้กรมธนารักษ์ดูแล
สำหรับกรอบพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดนครพนมทั้งหมดตามประกาศสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) หรือสภาพัฒน์ กำหนดจะครอบคลุมพื้นที่ 2 อำเภอ 13 ตำบล เนื้อที่ 744.79 ตารางกิโลเมตร คิดเป็นพื้นที่ 465,493.75 ไร่ ประกอบด้วย อำเภอเมืองนครพนม 10 ตำบล ครอบคลุม 554.58 ตารางกิโลเมตร ได้แก่ ตำบลกุรุคุ ตำบลท่าค้อ ตำบลนาทราย ตำบลนาราชควาย ตำบลในเมือง ตำบลบ้านผึ้ง ตำบลโพธิ์ตาก ตำบลหนองญาติ ตำบลหนองแสง และตำบลอาจสามารถ ที่อำเภอท่าอุเทน 3 ตำบล ครอบคลุม 190.21 ตารางกิโลเมตรได้แก่ ตำบลโนนตาล ตำบลรามราช และตำบลเวินพระบาท
ด้านรูปแบบการพัฒนาจะเน้นอุตสาหกรรมแปรรูปสินค้าเกษตร อุตสาหกรรมการผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค อุตสาหกรรมเกี่ยวกับวัสดุก่อสร้าง อุตสาหกรรมเกี่ยวกับอาหารแช่แข็งและห้องเย็น ขณะที่การค้าชายแดนจะเน้นให้เป็นศูนย์กลางการค้าส่งและตลาดกลางสินค้าเกษตรระดับภูมิภาคอินโดจีน สินค้าแปรรูปอุตสาหกรรมอาหารปลอดภัย และศูนย์กลางโลจิสติกส์ การขนส่งรวบรวมและกระจายสินค้า
ดันราคาที่ดินพุ่งสูงไร่ละ 10 ล้านบาท
ข้อมูจากสำนักงานที่ดินจังหวัดนครพนม ระบุว่าที่ดินทั้ง 1.86 พันไร่เป็นทำเลที่ดีที่สุดถือว่าเป็นแปลงที่ดิน "สีขาว" หมายถึง ปลอดจากการเข้าทำประโยชน์ ขณะที่ราคาประเมินที่ดินใกล้กับแปลงที่ดินตำบลอาจสามารถ ติดทางหลวงหมายเลข 212 ( นครพนม-บึงกาฬ )ติดสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่3 ที่จะข้ามฝั่งไปยัง สปป.ลาว ราคาตารางวาละ 3.5 พันบาท หรือไร่ละ 1.4 ล้านบาท ติดทางหลวงชนบท ตารางวาละ 1 พันบาท หรือไร่ละ 4 แสนบาท ส่วนถนนซอยตารางวาละ 700 บาท ที่ดินตาบอด 300 บาทต่อตารางวา ขณะที่ราคาตลาดซื้อขายจะสูงกว่า 2-3 เท่าตัว บางแปลงราคาสูงกว่า 10 ล้านบาทต่อไร่ โดยเฉพาะที่ดินติดถนนในเขตเทศบาลตำบลอาจสามารถใกล้กับสะพาน ซึ่งเป็นทำเลที่นักลงทุนเริ่มขยับเข้ามาลงทุนมากขึ้น เช่น บริษัทปั๊มน้ำมันปตท. ปั๊มเอสโซ่ รวมถึงการลงทุนพัฒนาสร้างอาคารพาณิชย์ นอกจากนี้ยังมีโรงแรมเกิดขึ้นรองรับ อาทิ โรงแรมวิวโขง โรงแรมริเวอร์วิว อีกทั้งโครงการบ้านจัดสรรที่เกิดขึ้น ซึ่งทำเลทองส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณตำบลอาจสามารถ ตำบลหนองญาติ และ ตำบลท่าค้อ เป็นต้น

