Friday, May 6, 2016
Thursday, May 5, 2016
ใครคือมือพิฆาตแห่งยูทูป ที่กล้าปิดบัญชีมหาวิทยาลัยประชาชนของดร.เพียงดิน...อ่านข่าวนี้...
ใครคือมือพิฆาตแห่งยูทูป ที่กล้าปิดบัญชีมหาวิทยาลัยประชาชนของดร.เพียงดิน...อ่านข่าวนี้...
วันรุ่งขึ้น กงสุลใหญ่เจษฏา และกงสุลสัณห์ อรุณรักษ์ติชัย ได้ไปร่วมงานบุญประเพณีสงกรานต์ที่วัดพุทธานุสรณ์ รวมทั้งร่วมงานเลี้ยงอำลาที่ร้านโอชา ก่อนไปรับตำแหน่งทูตใหญ่ที่ประเทศโอมาน
ข่าวจากสถานกงสุลใหญ่ แอลเอ
เมื่อวันเสาร์ ที่ ๑๖ เมษายน ๒๕๕๙ กงสุลใหญ่ เจษฎา กตะเวทิน
เมื่อวันเสาร์ ที่ ๑๖ เมษายน ๒๕๕๙ กงสุลใหญ่ เจษฎา กตะเวทิน
ได้ขึ้นมาพบกลุ่มมืออาชีพในวงการอุตสาหกรรมเทคโนโลยี่สารสนเทศ แห่งซิลิคอนแวลลี่ย์ อันประกอบด้วยนักไอทีของแฟสบุ๊ก กูเกิ้ล แอ็บเปิ้ล ฯ คนไทยกลุ่มนีเป็นหนุ่มสาวยุคใหม่ไฟแรง ซึ่งจะประสานกับทีมไทยแลนด์ ในการทำงานเป็นเครือข่ายไอที ของชุมชนไทยซานฟรานซิสโก
วันรุ่งขึ้น กงสุลใหญ่เจษฏา และกงสุลสัณห์ อรุณรักษ์ติชัย ได้ไปร่วมงานบุญประเพณีสงกรานต์ที่วัดพุทธานุสรณ์ รวมทั้งร่วมงานเลี้ยงอำลาที่ร้านโอชา ก่อนไปรับตำแหน่งทูตใหญ่ที่ประเทศโอมาน
ภาพ โฉมหน้านักไอทีไทยของชุมชนซิลิคอนแวลลี่ย์
ใครเป็นใคร ลองซูมดู เผื่อจะมีมือพิฆาต ทีจ้องจัดการปิดบัญชีของมหาวิทยาลัยประชาชนยูทูปอยู่ด้วย
Wednesday, May 4, 2016
ด่วน ยูทูปมหาวิทยาลัยประชาชน กำลังจะถูกปิด!!! กด Subscribe สถานีสำรองด่วน!
ด่วน ยูทูปมหาวิทยาลัยประชาชน กำลังจะถูกปิด!!! กด Subscribe สถานีสำรองด่วน!
โดยขอให้รีบไปกด Subscribe ที่
"เรามาถึงจุดนี้กันได้อย่างไร"
"เรามาถึงจุดนี้กันได้อย่างไร"
--------------------------------------------------------------------------------------
วันนี้ 3 พฤษภาคม เป็น "วันเสรีภาพสื่อโลก"
-
หลายองค์กรสื่อ ทั้ง FCCT-สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศในไทย สมาคมสื่อไทยคงจัดกิจกรรมถึงประเด็นนี้
-
ถ้าถามว่า ตอนนี้สื่อไทยมีเสรีภาพไหม? คงต้องตอบว่า "มี แต่ไม่ใช้"
ทำไมน่ะเหรอ?
-
เพราะกลัวการนำเสนอข่าวจะกระทบความมั่นคง ฯลฯ
-
ถ้าทุกสื่อทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มภาคภูมิ คนในสังคมคงไม่ยินยอมให้เกิดเหตุการละเมิดสิทธิมนุษยชนขึ้นทุกเมื่อเชื่อวัน
-
ถ้าสื่อทำหน้าที่ คงไม่มีใครยินยอมให้ทหาร-ตำรวจ-คสช.ใช้อำนาจบาทใหญ่ปิดปากประชาชนที่เห็นต่าง ด้วยการใช้กฎหมายจับกุมคุมขังคนที่รณรงค์ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ หรือโหวตโน
-
หรือแม้กระทั่งเคลื่อนไหวเพื่อปากท้อง เช่น กรณีเหมืองทองคำ การตัดโค่นยางพาราในที่ดินคนจน
-
หรือแม้กระทั่งจับกุมคุมขังคนที่วาดภาพล้อเลียนนายกรัฐมนตรี
ในฐานะสื่อตัวเล็กๆ คนหนึ่งเฝ้ามองการเปลี่ยนผ่านนี้ไปด้วยความคับข้องหมองใจว่า "เรามาถึงจุดนี้กันได้อย่างไร"
-
ปรากฎการณ์ที่เห็นตรงหน้า มันเหมือนย้อนกลับไปสมัยก่อน 14 ตุลาฯ 16 ที่เราอ่านในหนังสือประวัติศาสตร์ว่า ผู้มีอำนาจใช้กฎหมายจับกุมคนที่ชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คน
-
ใช้พรบ.ความสะอาดจับกุมคนติดโพสต์อิทที่สถานีรถไฟฟ้า ฯลฯ
-
ปรากฎการณ์เหล่านี้ไม่เคยคิดว่า จะได้เห็นในยุค 2016
-
นั่งถามตัวเองว่า เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นได้อย่างไร?
-
เพราะสื่ออนุญาตให้เกิด?
-
สื่อวางเฉย?
-
หรือสื่อสนับสนุน?
-
เป็นคำถามที่สื่อแต่ละสำนักก็มีคำตอบในตัวเองอยู่แล้ว เหมือนกับการรัฐประหารจะเกิดไม่ได้ ถ้าไม่มีสื่อเปิดประตูให้ทหารเข้ามา
-
หากใครถามว่า เสรีภาพสื่อไทยปี 2559 มีไหม เราคงตอบเต็มปากว่า
-
"มี แต่น้อยคนที่จะใช้ เพราะมีความกลัวจากเหตุปัจจัยอื่นๆ ค้ำคอ
-
เมื่อใดก็ตามที่สื่อไทยก้าวผ่านความกลัวไปได้ วันนั้นสังคมก็คงรับรู้ได้ถึงเสรีภาพของ "สื่อมวลชนไทย"
-
Cr. Isranews Agency
-------------------------------------------------------------------------------------
BBC เสนอข่าวว่า
สองสมาคมวิชาชีพสื่อออกแถลงการณ์ร่วม ชี้เสรีภาพสื่อไทยอยู่ในยุค "มืดมน" เรียกร้องให้ คสช.ยกเลิกกฎหมายที่ริดรอนเสรีภาพสื่อ ขณะที่อีกด้านเรียกร้องสื่อด้วยกันเองให้ "เปิดพื้นที่ให้ทุกฝ่าย"
-
แถลงการณ์ร่วมของสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยและสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ที่ออกในวันนี้ เนื่องในโอกาสวันเสรีภาพสื่อมวลชนโลก 3 พ.ค. กล่าวถึงสถานการณ์ของสื่อไทยในเวลานี้ว่า กำลังถูกจำกัดเสรีภาพอย่างมาก โดยแถลงการณ์ใช้คำว่า "มืดมน"
-
แถลงการณ์ดังกล่าวระบุว่า รัฐบาลภายใต้การนำของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เข้าควบคุมการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน อาทิ
การเรียกสื่อมวลชนไปปรับทัศนคติ
การเรียกประชุมตัวแทนสื่อมวลชนเพื่อให้ปฏิบัติตามคำสั่งของ คสช.อย่างเคร่งครัด หากฝ่าฝืนจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย รวมทั้งมีการออกคำสั่งหลายฉบับที่มีเนื้อหาควบคุมสื่อมวลชนในการนำเสนอข้อมูลข่าวสาร
-
แถลงการณ์ระบุว่า การปฏิรูปสื่อมวลชนเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามปฏิรูปประเทศ สภาปฏิรูปแห่งชาติได้จัดทำแผนปฏิรูปสื่อมวลชนไปแล้ว แต่เมื่อส่งมอบให้กับสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศหรือ สปท.กลับไม่มีการสานต่อ
-
"ท่ามกลางบรรยากาศการปฏิรูปประเทศด้วยความคาดหวังให้เปลี่ยนผ่านการปกครองในระบอบประชาธิปไตยของประเทศไทยดีขึ้น แต่เสรีภาพของสื่อมวลชนไทยกลับถูกลดทอนลงอย่างมีนัยสำคัญ จนตกอยู่ในภาวะที่เรียกได้ว่า "มืดมน".."
-
แถลงการณ์ได้เรียกร้องสี่ข้อต่อ คสช. สื่อด้วยกันเอง และประชาชน โดยในประการแรก ขอให้รัฐบาล คสช.เร่งยกเลิกกฎหมายที่จำกัดสิทธิเสรีภาพสื่อฯ ทั้งคำสั่ง คสช.ฉบับที่ 97/2557 ฉบับที่ 103/2557 และฉบับที่ 3/2558 ข้อ 5 โดยเร็ว กลับไปใช้กฎหมายปกติกรณีที่พบสื่อละเมิดกฎหมาย ทั้งนี้เพื่อสร้างพื้นที่ปลอดภัยจากคำสั่งทางความมั่นคง และให้เปิดให้ประชาชนกลุ่มต่างๆ ได้แสดงความคิดเห็นซึ่งจะส่งผลดีต่อภาพลักษณ์ด้านสิทธิเสรีภาพของประเทศ ขอให้สร้างหลักประกันเสรีภาพในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารได้อย่างถูกต้อง รอบด้าน ขอให้สื่อมวลชนเปิดพื้นที่ให้กับทุกฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อแสวงหาทางออกร่วมกันอย่างสร้างสรรค์ "ด้วยเชื่อว่าข่าวสารที่มีข้อมูลถูกต้อง รอบด้านจะเป็นทางออกของประเทศให้ก้าวข้ามพ้นวิกฤติความขัดแย้งไปได้" และ "รัฐจึงไม่ควรผูกขาดการนำเสนอข่าวด้านเดียว หรือควบคุม แทรกแซงให้สื่อฯ เกิดความหวาดกลัวต่อการนำเสนอข่าวสาร"
-
ประการถัดมา แถลงการณ์ขอให้สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศมีแนวทางสนับสนุนให้เกิดนโยบายและกฎหมายที่ส่งเสริมให้เกิดระบบกลไกในการกำกับดูแลกันเองของสื่อมวลชน และขอให้การพิจารณากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสื่อมวลชนเช่น ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์อย่างรอบคอบ เพื่อไม่ให้กระทบต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชนมากจนเกินสมควร และในส่วนของร่าง พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม (กสทช.) ที่กำลังมีการเสนอแก้ไขกฎหมายอยู่ ก็ขอให้คำนึงถึงหลักการที่ให้ประชาชนมีหลักประกันว่าการจัดสรรคลื่นความถี่จะต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์ต่อสาธารณะ รวมทั้งเรียกร้องด้วยว่า การสรรหาคณะกรรมการของ กสทช.ควรโปร่งใสและให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม มีองค์ประกอบหลากหลาย ไม่ใช่มีเพียงตัวแทนหน่วยงานรัฐเท่านั้น
-
ประการที่สาม แถลงการณ์ของสองสมาคมขอให้ผู้ประกอบการสื่อให้ความสำคัญต่อการนำเสนอข้อมูลที่ถูกต้อง ครบถ้วน รอบด้านเพื่อเป็นหลักประกันต่อเสรีภาพ ทำงานอย่างมืออาชีพ เคารพหลักจริยธรรม ร่วมกันสร้างกลไกกำกับการทำงานของกลุ่มเองให้เป็นจริง และประการสุดท้าย ขอให้ประชาชนระมัดระวังในเรื่องของการเผยแพร่ข้อมูล รวมทั้งร่วมตรวจสอบสื่อมวลชนให้ทำงานในหน้าที่และทำในสิ่งที่ถูกต้อง
-
ด้านนายวันชัย วงศ์มีชัย นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ได้เปิดเผยกับบีบีซีไทยว่า เมื่อเปรียบเทียบการทำงานของสื่อภายใต้รัฐบาลที่มาจากรัฐประหาร 3 ครั้งก่อนหน้านี้ รัฐบาลปัจจุบันมีการใช้อำนาจจำกัดเสรีภาพสื่อมากกว่าชุดอื่นๆ โดยเฉพาะคำสั่ง คสช.ฉบับที่ 97/2557 ฉบับที่ 103/2557 และฉบับที่ 3/2558 ซึ่งทางสมาคมนักข่าวฯเรียกร้องให้มีการเลิกคำสั่งเหล่านี้โดยเร็ว พร้อมขอให้รัฐบาลเปิดพื้นที่ให้ประชาชนได้มีโอกาสในการแสดงออกมากยิ่งขึ้น แต่ว่าเรื่องนี้จะเป็นไปได้หรือไม่นั้น นายวันชัยกล่าวว่า ภายใต้สถานการณ์ที่รัฐบาลมองว่ามีกลุ่มปั่นป่วนทางการเมือง ส่วนหนึ่งที่ปลุกกระแสได้คือสื่อมวลชน ตนจึงประเมินว่ารัฐบาลคงไม่ยอมยกเลิกคำสั่งเหล่านี้ง่าย ๆ
-
(ภาพก่อนตัดต่อจาก สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย )
-
รวบรวมโดย - เสรีชน
พื้นที่ไฟล์แนบ
ศาลทหารทรราช คสช. ใช้ส้นตีนพิเคราะห์แล้ว เป็นคดีร้ายแรง จึงไม่ให้ประกันตัว 8 แอดมิน
ศาลทหารทรราช คสช. ใช้ส้นตีนพิเคราะห์แล้ว เป็นคดีร้ายแรง จึงไม่ให้ประกันตัว 8 แอดมิน
---------------------------------------------------------------------------------
ศาลทหารไม่ให้ประกันตัว 8 แอดมินเพจ "เรารักพลเอกประยุทธ์"
นายอานนท์ นำภา ทนายของแอดมินเฟซบุ๊กเพจ "เรารักพลเอกประยุทธ์" ทั้ง 8 ราย เปิดเผยว่าศาลทหารไม่อนุญาตให้ประกันตัวผู้ต้องหาทั้งหมด โดยให้เหตุผลว่าในข้อเท็จจริงพฤติการณ์ยังไม่เปลี่ยน แต่นายอานนท์ระบุว่า จะยื่นขอประกันตัวใหม่อีกครั้งในวันที่ 10 พ.ค. ที่จะถึงนี้
-
ผู้ต้องหาทั้ง 8 ถูกกล่าวหาว่าร่วมกันเป็นแอดมินเพจเฟซบุ๊ก "เรารัก พลเอกประยุทธ์" ประกอบด้วย
นายหฤษฏ์ มหาทน
น.ส.ณัฎฐิกา วรธันยวิชญ์
นายนพเก้า คงสุวรรณ
นายวรวิทย์ ศักดิ์สมุทรนันท์
นายโยธิน มั่งคั่งสง่า
นายธนวรรธน์ บูรณศิริ
นายศุภชัย สายบุตร และ
นายกัณสิทธิ์ ตั้งบุญธินา
-
ซึ่งศาลทหารไม่พิจารณาให้ประกันตัวในการยื่นขอครั้งแรกเมื่อวันที่ 30 เม.ย. ที่ผ่านมา โดยศาลพิเคราะห์ว่า พฤติการณ์ของจำเลยเป็นเรื่องร้ายแรง ประกอบกับ พนักงานสอบสวนได้ยื่นคัดค้านการประกันตัว จึงยังไม่มีเหตุผลสมควรให้ปล่อยตัวชั่วคราว
-
คนทั้งหมดถูกออกหมายจับในข้อหากระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และกฎหมายอาญา มาตรา 116
-
ทั้งนี้ นายอานนท์ระบุว่า ได้เตรียมหลักทรัพย์เพื่อประกันผู้ต้องหารายละ 150,000 บาท พร้อมทั้งได้ชี้แจงกับศาลไปว่า ผู้ต้องหาไม่ได้มีพฤติการณ์ที่จะหลบหนี รวมถึงไม่มีพฤติการณ์ที่จะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานเพราะหลักฐานทั้งหมดอยู่กับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว
-
Cr. บีบีซีไทย - BBC Thai
Subscribe to:
Comments (Atom)




