Friday, April 22, 2016

ไอ้ตูบ ประยุทธ์ เอาแต่ญาติพรรคพวก สถุนเสวยสุข บนคราบน้ำตาและกองเลือดของประชาชน

ไอ้ตูบ ประยุทธ์ ทำงานไม่เป็นเพราะทั้งโง่เง่า ปากหมา และคดโกงเงินแผ่นดิน เอาแต่ญาติพรรคพวก สถุนเสวยสุข บนคราบน้ำตาและกองเลือดของประชาชน มาวันนี้ เที่ยวโทษคนโน้น คนนี้ ...........ถุย ไอ้ทรราช คสช.

-----------------------------------------------------------------------------------

แทนที่จะไปโทษทักษิณ ถามตัวเองดีกว่าว่าทำระยำกับคนไทยขนาดไหน ทั้งโลกเขาถึงต่อต้าน

-
อ่านข่าวไอ้ฉุนโวยวายกล่าวหานายกทักษิณว่าไปล็อบบี้ต่างชาติให้เล่นงาน คสช.เรื่องที่ทำการกดขี่ข่มเหงคุณวัฒนา เมืองสุข มีคำถามง่าย ๆ ว่า แทนที่จะไปกล่าวหาคุณทักษิณ ทำไมไม่ดูตัวเองกันเลยว่า ไอ้พวกแก๊งค์ทหารขยะ 3 ป 1 ม มันทำระยำอะไรบ้างกับคนไทยทั้งชาติ และ คุณวัฒนากับครอบครัวบ้าง สังคมโลกเขาถึงได้ต่อต้านพวกมันรุนแรงจนปอดแหกต้องรีบปล่อยคุณวัฒนาด่วนจี๋ ทั้งที่ไอ้ฉุน ไอ้อ้วน ไอ้ป๊อก ไอ้หมู รวมไปถีงพวกลูกจ๊อกระดับพลตรี พันเอก หลายตัว ออกมาประสานเสียงเห่าหอนข่มขู่กันเต็มเหยียด บอกทำนองว่าแบบนี้อย่างน้อยต้องโดนคุมตัวไปขังปรับทัศนคติ 7 วันบ้าง บางคนพูดว่าต้องเอาให้เข็ดบ้าง ฯลฯ แต่บังเอิญเขาเป็นไก่ชน ที่พร้อมท้าเดี่ยว ๆ ไม่มีรุมกับไอ้ทหารขยะได้ทุกตัว ไม่ใช่ปากหมาขาสั่นแบบพวกมัน เขาประท้วงด้วยการอดอาหารสองสามวัน แม่งฝ่อรีบหาทางปล่อยทันที

-
การเอาตัวคนที่ไม่ได้ทำอะไรผิดไปคุมขังโดยไม่มีข้อหา การเอาตัวเขาไปขึ้นศาลทหารที่ทั้งโลกเขาถือว่าเป็น Kangaroo Court กล่าวโทษเขาในข้อหาตามคำสั่ง คสช.ที่พวกมันออกกันเองตามอำเภอใจ ไม่ได้ผ่านกระบวนการออกกฎหมายตามหลักสากล การข่มขู่ของไอ้ยุดขยะที่ประกาศจะจับกุมประชาชนที่ประกาศไม่รับร่างรัฐธรรมนูญที่ให้อำนาจทหารขยะพวกมันยึดครองปล้นประเทศไปอีกหลายสิบปีมาติดคุก ฯลฯ เรื่องพวกนี้ต่างหากที่มันชัดเจน จนสังคมโลกไม่มีใครเขายอมรับแน่นอน และทำให้เขาต้องเปิดหน้ารุมกันต่อต้านพวกมัน เพราะทหารขยะแก๊งค์ประยุทธ ประวิตร ป๊อก หมู ทำกับประชาชนมือเปล่าทั้งประเทศ ด้วยวิธีที่ขัดกับปฎิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ หลักการที่เมืองไทยยอมรับและให้สัตยาบันมาก่อนที่ไอ้พวกนี้มันจะเกิดเสียอีกแล้วอย่างชัดเจน ประชาคมโลกเขาย่อมต้องต่อต้าน เพราะการยอมให้แก๊งค์ทหารขยะพวกนี้ทำได้ตามอำเภอใจแบบนี้อีก ก็ไม่ต้องมีหลักการกฎเกณฑ์อะไรอีกแล้วในโลก การกระทำแบบนี้ของพวกมันต่างหากที่ทำให้เขามีความชอบธรรมที่จะต้านพวกมัน


-
ต่อให้คุณทักษิณสามารถที่จะล้อบบี้ทุกองค์กรในสากลโลกได้ เขาก็ไม่มีวันทำตามที่คุณทักษิณล้อบบี้หรอก ถ้าไอ้พวกแก๊งค์ทหารขยะประยุทธ ประวิตร ป๊อก หมู มันไม่ได้ทำระยำอะไรกับคนไทยทั้งประเทศและคุณวัฒนา เมืองสุข ฯลฯ อย่างชัดเจนแบบที่พวกมันทำกันอยู่ให้เขาเห็นกันทั้งสังคมโลกแบบนี้

-
Cr. Bugbunny



สารจากใจอดีต นายกฯ ทักษิญ ถึง ทรราช คสช.

สารจากใจอดีต นายกฯ ทักษิญ ถึง ทรราช คสช.

------------------------------------------------------------

From Dr. Thaksin Shinawatra

22 เมษายน 2559
 
ทุกวันนี้ผมเงียบมาตลอด ตั้งใจที่จะไม่ออกความคิดเห็นในเรื่องใดๆ และอยากให้ทุกฝ่ายตั้งใจแก้ไขปัญหาให้ประชาชน แต่อยู่ดีๆ ผมกลับถูกพาดพิงอย่างรุนแรง จนต้องเสียความตั้งใจ เลยต้องขอพูดสักครั้ง 
-

การแก้ปัญหาของประเทศ ภายใต้รัฐบาลทหารของไทยในขณะนี้ มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นก็โทษคนอื่น โดยตนเองไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลย ไม่เคยทำอะไรผิด ตัวเองดีทุกอย่าง เช่นน้ำแล้งก็บอกว่า เป็นเพราะรัฐบาลก่อน ราคาพืชผลเกษตรตกต่ำ ขายไม่ออกอย่างยางพารา ก็บอกให้ไปขายดาวอังคาร บริหารประเทศแบบนี้ใครๆ ก็เป็นได้ครับ นายกรัฐมนตรีของประเทศไทย
-

รัฐบาลนี้ได้อำนาจมาจากการรัฐประหาร ได้เข้ามาปกครองประเทศแล้วร่วม 2 ปี ได้ทำประโยชน์อะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ให้ชาวโลกเขาได้เห็นบ้าง ภาพลักษณ์ที่เผยแพร่ออกไป มีแต่การใช้อำนาจในการละเมิดสิทธิประชาชน และกฎหมายสากลอย่างไม่เคยเกิดในประเทศไทยมาก่อน เมื่อนานาอารยประเทศ และองค์กรสากลต่างๆ เขาเห็นว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องเขาก็ออกมาเตือน เป็นเรื่องปกติทั่วไป ที่เกิดขึ้นในประเทศที่ผู้นำฯ ใช้อำนาจในทางที่ไม่ถูกต้อง 
-

เมื่อผู้นำของประเทศเราไม่สนใจคำเตือน ประเทศอื่นเขาย่อมใช้มาตรการที่รุนแรงขึ้นครับ ไม่ว่าจะเป็นการระงับการค้าการลงทุน มาตรการปิดกั้นและกีดกันต่างๆ รวมถึงการย้ายถิ่นฐานการผลิตไปยังประเทศที่ 3 กระบวนการเหล่านี้ จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยอย่างรุนแรง และโมเมนตัมนี้จะส่งผลกระทบต่อเนื่องไปอีกนานหลายปี.. 
-

แต่..แทนที่ผู้นำเราจะยอมรับความผิด แก้ไขปัญหาเหล่านั้น และทำให้มันถูกต้องเสีย กลับออกมาโทษว่า เป็นเพราะผมไปจ้างล็อบบี้ยิสต์ เพื่อล็อบบี้ประเทศต่างๆ ให้แอนตี้ บอยคอตประเทศไทย โถ..ช่างคิดไปได้ 
-

อยากจะบอกว่า ผมไม่จำเป็นต้องไปจ้างใคร ให้เสียเงินเสียทอง เพื่อประจานนายกฯ ไทย ให้เสียภาพลักษณ์ประเทศหรอกครับ ประวัติศาสตร์มีให้เห็นอยู่เสมอว่า เผด็จการฯที่ลุแก่อำนาจ ด่ากราดคนที่พูดจาไม่ถูกใจ ดูถูกคนยากจนว่าโง่ ใช้อำนาจเกินขอบเขต และปกครองประเทศโดยไม่เห็นหัวประชาชนนั้น ล้วนแล้วแต่แพ้ภัยตัวเองทั้งนั้น 
-

อยากจะเป็นผู้นำประเทศ ถ้าอารมณ์ของตัวเองยังควบคุมไม่ได้ ใช้อารมณ์ด่ากราดผู้คนเพื่อเอาชนะ ตะคอกใส่นักข่าวให้เขาสงบปากสงบคำ และเขียนข่าวให้ถูกใจตน ทำแบบนี้บอกเลย อย่าหวังว่าจะทำให้คนส่วนใหญ่ของประเทศคล้อยตาม 
-

ถ้าอยากรู้ว่าตัวเองแย่แค่ไหน ลองเอาเทปที่คุณพูดทุกวันมาฟังย้อนหลังดูซิครับ แล้วคุณจะรู้ว่า 
-

"ไม่มีล็อบบี้ยิสต์ในโลกคนไหนที่จะมีความสามารถทำลายคุณได้ เท่ากับคุณทำลายตัวคุณเอง" 
-

เพราะฉะนั้น เมื่อคุณมั่นใจว่าเป็นคนดี ก็จงก้มหน้าก้มตาเป็นคนชอบแก้ไขไปเถอะ อย่าทำตัวเหมือนที่ผ่านมาเลย



Thursday, April 21, 2016

ประเทศไทย ต้องปฏิบัติตาม Lieber Code,1863

การ ต้องปฏิบัติตาม Lieber Code,1863 ซึ่งเป็น กฏหมายพื้นฐานที่สำคัญของ Common Law of War หรือ กฏเกณฑ์ ธรรมเนียมประเพณี ในทางปฏิบัติของ Common Law of War

ที่ตั้งฐาน เป็น ปึกแผ่น อยู่ใน Hague Conventions, 1899 - 1907; the Geneva Conventions (ทั้งสี่ ฉบับ), 1949 พร้อมด้วย Protocol อีก สามฉบับ อันเป็นรายละเอียด ของ สนธิสัญญาใหญ่ ต่อ ประเทศไทย และ

ในประเทศไทย จะมีผลบังคับเช่นใด? ในประเทศไทย ณ ขณะปัจจุบันนี้.

๑. เมื่อท่านผู้อ่านทั้งหลาย ได้อ่านบทความ ในตอนที่แล้ว และ เมื่ออ่านบทบัญญัติของ Lieber Code, 1863 ที่ผมได้นำมาวางให้ พร้อมกับ ที่ผม ได้ถอดความ ออกมา เป็นภาษาไทย ให้ทุกๆท่าน ได้ดู และ ได้อ่าน ให้เกิด ความเข้าใจ ในแบบคนไทย

๒. ท่านจงอย่าเพียงอ่าน บทบัญญัติเหล่านั้น ในแบบผ่านตา เท่านั้น เพราะนั่นจะไม่เกิดประโยชน์ โภคผลใดๆเลย ต่อตัวท่าน และ พ่อแม่ พี่น้อง ประชาชน คนไทย แต่อย่างใด ที่ผม เขียนมา ให้อ่านนี้ ก็ใช่ว่า ผมต้องการทำตัวให้เด่นดัง ก็หาไม่ แต่ผม ต้องการสอน ความรู้ และ ถ่ายทอด ความรู้นี้ แก่ท่าน และ พ่อแม่ พี่น้อง ประชาชนคนไทย โดยไม่หวัง สิ่งใดตอบแทน ไม่ว่า ในทางการเมือง สถานภาพของตนเอง ที่เป็นอยู่ในวันนี้

๓. สิ่งที่ผมอยากเห็น ก็คือ พ่อแม่ พี่น้อง ประชาชน คนไทย ใช้ กฏเกณฑ์พื้นฐาน ของธรรมเนียม ประเพณีในการทำสงคราม และ/ หรือ การแก้ไข ระงับ ยับยั้ง และ ยุติ ปัญหาความขัดแย้งต่างๆ ในชาติของ เราลงได้ โดยไม่ต้องใช้ ความรุนแรง และ กำลังอาวุธ ซึ่งเป็นกฏเหล็กของโลกใบนี้ หรือ the Common Law of War on Land เป็น เหมือน อย่างคนในโลกที่เจริญแล้ว เขาใช้ เป็น กัน

๔. บทบัญญัติที่ ๔๐ หรือ Art. 40.ของ Lieber Code, 1863 นับได้ว่า เป็นบทบัญญัติที่สำคัญใน การทำสงครามทางบก หรือ อีกนัยหนึ่ง ก็คือ การแก้ไข ระงับ ยับยั้ง และ ยุติ ปัญหาความขัดแย้งต่างๆ ในชาติของ เรา โดยไม่ต้องใช้ ความรุนแรง และ กำลังอาวุธ เปรียบเสมือน "หัวใจ" ของ Lieber Code, 1863

"There exists no law or body of authoritative rules of action between hostile armies, except that branch of the law of nature and nations which is called the law and usages of war on land."

ถอดความออกเป็นภาษาไทย คงได้ความว่า ""ไม่มีกฏหมาย หรือ อำนาจขององค์กรแห่ง การกระทำใดๆ ในระหว่างกองทัพ ที่เป็นศัตรูประจันกัน, นอกจากกฏของธรรมชาติ และ ของชาติต่างๆ ที่เรียกขานกันว่า [กฏเกณฑ์ และ ธรรมเนียมประเพณีปฏิบัติของ การทำสงครามทางบก]""ไม่มีกฏหมาย หรือ อำนาจขององค์กรแห่ง การกระทำใดๆ ในระหว่างกองทัพ ที่เป็นศัตรูประจันกัน, นอกจากกฏของธรรมชาติ และ วิถีปฏิบัติของ ชาติต่างๆ ที่เรียกขานกันว่า [กฏเกณฑ์ และ ธรรมเนียม ประเพณีปฏิบัติของ การทำสงครามทางบก]"

๕. ที่อาจเรียกได้ว่า แทรกซึมอยู่ในทุกอนูของ Lieber Code, 1863; The Hague Conventions, 1899 - 1907 และ The Geneva Conventions (ทั้งสี่ฉบับ), 1949 และ Protocol อีกสามฉบับ ที่เราอาจรวมเรียกได้ว่า "เป็น"กฏหมาย ที่วางรากฐานเอาไว้ ให้เห็นทั้งตัว บทกฏหมาย หรือ อำนาจขององค์กรแห่ง การกระทำใดๆ ในระหว่างกองทัพ ที่เป็นศัตรูประจันกัน

๗. "จะต้องใช้ กฏของธรรมชาติ และ ธรรมเนียมวิถีปฏิบัติของ ชาติต่างๆ เข้ามาตัดสิน เมื่อเกิดกรณี ที่เป็นปัญหาในทาง ที่ต้องตี ความหมาย จากกฏหมาย เมื่อสงครามสงบลง หรือ เมื่อมีเหตุการณ์ ที่เป็น "ปํญหาคาใจ" และ ต้องทำความกระจ่าง ให้เกิดขึ้น ที่เราเรียกขานกันว่า "กฏเกณฑ์ และ ธรรมเนียม ประเพณีปฏิบัติของ การทำสงครามทางบก" และ เป็นกฏเหล็กของโลก

๘. ซึ่งผมเห็นว่า นี่แหละ คือ ตัวหัวใจ ของ Lieber Code, 1863: The Hague Conventions, 1899 - 1907 และ The Geneva Conventions (ทั้งสี่ฉบับ), 1949 และ Protocol อีกสามฉบับ และ เหตุการณ์ ที่เกิดมาแล้วในประเทศไทย นับแต่การก่อตัวของ กปปส. จนนำมาสู่ เหตุการณ์ในวันที่ ๒๐ - ๒๒ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๗ จนโยงมาถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในประเทศนี้ ยึดโยงกันมาจนถึง วันนี้

๙. ก่อนจบบทความนี้ จึงอยากถามไปยัง พี่น้องคนไทยทั้งหลายว่า มีหน่วยงานใดในประเทศนี้ ที่คิด จะหยิบบทบัญญัติที่ ๔๐ นี้ ขึ้นใช้ และ ชี้ให้เห็นโดยกระจ่าง ว่า "การปฏิบัติของประเทศนี้เป็น การปฏิบัติ ที่ฝ่าฝืน ต่อ กฏเกณฑ์ตามบทบัญญัติ ที่ ๔๐ นี้อย่างไร? ใคร? ต้องรับผิดชอบ แก่กรณีเช่นนี้ ทั้งๆที่ประเทศไทย ไปรับ เอามาเป็น พันธกรณี ที่ต้องปฏิบัติตาม เพราะเราให้สัตยาบัน ต่อ (สนธิสัญญาเหล่านี้) คือ The Hague Conventions, 1899 - 1907 และ The Geneva Conventions (ทั้งสี่ฉบับ), 1949 โดยสมบูรณ์ และ ขอถามพ่วงไปด้วยว่า เมื่อเรา รับเป็น พันธกรณีของ ประเทศ แล้ว ไม่ปฏิบัติตามได้ หรือ?.............(มีต่อ)
 

เครดิต  Thanaboon Chiranuvat.



สื่อทั่วโลกตีข่าว รัฐบาลทรราช คสช.โดนจวก ให้อำนาจทหารเกินขอบเขต

สื่อทั่วโลกตีข่าว รัฐบาลทรราช คสช.โดนจวก ให้อำนาจทหารเกินขอบเขต
-
วันศุกร์, เมษายน 22, 2559
-
BY ASAJEREE 
ISpace Thailand
-
สื่อต่างๆในต่างประเทศต่างรายงานข่าวรัฐบาลทหารไทยให้อำนาจกับทหารและตำรวจในการปราบปราม"ผู้ต้องสงสัย"ว่าเป็นผู้มีอิทธิพล โดยไม่ต้องใช้หมายศาล
-

สำนักข่าวชื่อดังของอังกฤษ เดอะการ์เดี้ยน (http://www.theguardian.com/world/2016/apr/05/thailand-junta-gives-army-sweeping-powers-of-arrest) รายงานว่าผู้นำรัฐบาลทหารของไทยถูกวิจารณ์อย่างหนักที่ให้อำนาจเสมือนเป็นตำรวจให้กับทหาร ในการปราบปรามผู้ที่เห็นว่ามีอิทธิพล
-

โดยทหารตั้งแต่ยศร้อยตรีขึ้นไปจะสามารถทำการยับยั้งเหตุ 27 ชนิดได้เช่น อาชญากรรมต่อสันติภาพ การพนัน การข่มขู่กรรโชกไปจนถึงการใช้แรงงานทาส พวกเขายังได้รับอนุญาติในบางกรณีเพื่อค้นทรัพย์สินโดยที่ไม่ได้ต้องมีหมายอีกด้วย
-

นอกจากนี้ทหารยังจะมีอำนาจในการยึดทรัพย์ ระงับบัญชีใช้จ่าย และยกเลิกวีซ่าของผู้ต้องสงสัยได้อีกด้วย
-

เดอะการ์เดี้ยนมองว่า ประเทศไทยซึ่งเป็นพันธมิตรหวานชื่นกับสหรัฐมาอย่างยาวนาน ตอนนี้เริ่มขมแล้วตั้งแต่พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา เข้ามามีอำนาจจากรัฐประหาร ภายใต้การปกครองของทหารนี้ เสรีภาพของประชาชนก็ลดน้อยถอยลงเรื่อยๆ เช่นกรณีล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐบาลทหารได้สั่งห้ามนายประวิตร โรจนพฤกษ์ เข้าร่วมงานเสรีภาพสื่อที่ประเทศฟินแลนด์
-

"เรายังจะเรียกร้องให้รัฐบาลไทยจำกัดบทบาทของกองทัพในนโยบายภายในและคืนอำนาจให้กับประชานต่อไป" โฆษกกระทรวงต่างประเทศแผนกเอเชียตะวันออก นางคาธิน่า อดัมส์กล่าว
-

"รวมถึงการนำศาลพลเรือน และ กระบวนการไต่สวนที่ยุติธรรมกลับมาใช้ด้วย"
-

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา กลุ่มนักสิทธิมนุษยชนได้ออกแถลงการร่วมกันเพื่อเรียกร้องให้ล้มเลิกข้อบังคับเหล่านี้ เพราะมันละเมิดสิทธิมนุษยชนและหลักนิติธรรม
-

ส่วนหนึ่งของแถลงการณ์กล่าวว่า "แทนที่จะปูทางไปสู่ประชาธิปไตย รัฐบาลทหารได้ขยายอำนาจขึ้นตามที่ตัวเองต้องการ และละเมิดหลักการหลายๆอย่างโดยที่ไม่ต้องรับความผิด" แบรด อดัมส์ ประธานองค์กรสิทธิมนุษยชนภูมิภาคเอเชียกล่าว
-

"การกดขี่กลายเป็นเรื่องปกติในประเทศไทยพร้อมๆกับการล่วงถลำลงไปสู่ระบอบเผด็จการทหารแล้ว"
-

สำนักข่าวอัลจาซีรา ก็รายงานเรื่องนี้เช่นเดียวกันโดยกล่าวว่าแถลงการณ์ฉบับดังกล่าวเป็นแถลงการณ์ร่วมโดยมีหกองค์กรร่วมกัน เช่น ฮิวแมนไรท์วอช และองค์กรนิรโทษกรรมสากล ร่วมด้วย (http://www.aljazeera.com/news/2016/04/alarm-thailand-soldiers-police-powers-160405060115438.html)
-

ข่าวนี้ยังโด่งดังไปถึงประเทศตุรกีและฟิลิปปินส์โดยสื่ออย่าง Turkish weekly และ The Manila Times ยังนำมาเล่นอีกด้วย
-

-

-

ทั้งนี้ ข้อกังวลหลักของกลุ่มสิทธิมนุษยชนตามแถลงการณ์มีด้วยกันทั้งหมด 5 ข้อ ประกอบไปด้วย
การให้ความคุ้มครองกับผู้ใต้บังคับบัญชาในกรณีที่มีการละเมิดสิทธิซึ่งขัดกับหลักนิติธรรม
การที่คำสั่งนี้ไม่ได้อยู่ในบทบัญญัติของกฎหมายและขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ

-
การที่มอบอำนาจอย่างกว้างขวางให้กับเจ้าหน้าที่ที่ไม่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีซึ่งขัดต่อกฎพื้นฐานของสหประชาชาติ
การอนุญาติให้จำกัดเสรีภาพของบุคคลได้ถึงเจ็ดวันโดยไม่บอกสถานที่จับกุมซึ่งเสี่ยงต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนและการถูกอุ้มหาย
ในทางปฎิบัติ คำสั่งนี้จะเป็นตัวจำกัดการทำงานของนักปกป้องสิทธิมนุษยชน และเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนสากลขั้นพื้นฐาน

-

Cr. Thai E-News


อ ชูพงศ์ เปลี่ยนระบอบ 20 เมษ 59

อ ชูพงศ์ เปลี่ยนระบอบ 20 เมษ 59

รายการทางออกประเทศไทย ตอน ฝ่าย ประชาธิปไตย ต้องกล้าตัดสินใจ ก่อนที่คนไทย ต้องกลายเป็นทาส ของกลุ่มศักดินา และนายทุนผูกขาด เลวร้ายกว่า เป็นทาสยุค ก่อนเลิกทาส

แผนชั่ว ของ ป.ป.ช. เพื่อประโยนช์สุงสุดของ ทรราช คสช.

แผนชั่ว ของ ป.ป.ช. เพื่อประโยนช์สุงสุดของ ทรราช คสช.
-
สิ่งที่ประชาชนจะต้องรู้ แล้วจะได้ไม่ต้องแปลกใจว่า ทำไม ๆ คดีในมือของป.ป.ช. จึงไม่คืบหน้า ยกเว้น............ ยกเว้นจ้องทำลายแต่ตระกลู ชินวัตร

-------------------------------------------------------------------------------

เมืองไทยเวลานี้นอกจากอากาศจะร้อนแล้ว บรรยากาศทางการเมืองก็ยิ่งร้อนกว่าอากาศอีก โดยเฉพาะประเด็นการรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญที่มีคำถามพ่วงท้ายให้สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ที่มาจากการแต่งตั้ง หรือลากตั้งก็ตาม มีส่วนร่วมแจมในการเลือกนายกรัฐมนตรีร่วมกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.)
-
ใช่แต่เรื่องการเมืองเท่านั้นที่ทำให้ร้อน
-
เรื่องครอบครัวก็ยังทำให้สถานการณ์ร้อนได้เหมือนกัน
-
เมื่อ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม บรรจุ นายปฏิพัทธ์ จันทร์โอชา บุตรชาย เข้ารับราชการในตำแหน่งรักษาราชการนายทหารปฏิบัติการกิจการพลเรือน กองทัพภาคที่ 3 ยศว่าที่ร้อยตรี เหล่าสารบรรณ
-
ถ้าเป็นตาสีตาสาก็คงจะไม่เป็นเรื่องใหญ่โต
-
แต่นายปฏิพัทธ์ มีพ่อเป็น "ปลัดกระทรวงกลาโหม" และมีลุงเป็น "นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช." เรื่องจึงร้อนฉ่าขึ้นมาในบัดนาว
-
ใช่แต่จะมีเฉพาะครอบครัว "จันทร์โอชา" เท่านั้น
-
ครอบครัว "วงษ์สุวรรณ" ก็ทำให้การเมืองร้อนแรงไม่แพ้กัน
-
เมื่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เสนอหัวหน้า คสช.ให้ใช้มาตรา 44 สั่งแก้ไขกฎหมาย ป.ป.ช.ให้รับผิดชอบเสนอฟ้องเฉพาะคดีอาญาที่เกี่ยวกับการคอร์รัปชันเท่านั้น โดยให้เหตุผลว่าจะทำให้การปราบคดีโกงต่างๆเร็วยิ่งขึ้น
-
ถ้าเป็นเช่นนั้นคดีเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบก็จะไม่อยู่ในอำนาจของ ป.ป.ช.ทันที
-
เมื่อเป็นเช่นนี้คดีการสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเมื่อปี 2551 ในสมัยรัฐบาลของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ที่มี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ์ เป็นรองนายกฯ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว เป็นผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ก็จะลอยตัวไปกับการแก้ไขกฎหมายในครั้งนี้
-
โดย ป.ป.ช.จะถอนฟ้องบุคคลดังกล่าวที่ยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
-
ด้วยการเทียบเคียงกับการที่ ป.ป.ช. ยกฟ้องนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และพวกในการสลายการชุมนุมของคนเสื้อแดงเมื่อปี 53
-
ที่สำคัญประธาน ป.ป.ช. คือ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ เป็นผู้ที่มีสายสัมพันธ์แนบแน่นกับ "วงษ์สุวรรณ" ผู้พี่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และเคยทำงานร่วมกับ "วงษ์สุวรรณ" ผู้น้องอย่าง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ มาแล้ว
-
อากาศก็ร้อน เรื่องรัฐธรรมนูญก็ร้อน เรื่องครอบครัวก็ร้อน ไม่รู้ว่าจะเอาอะไรมาดับร้อนดี

-
Cr. ศุภรัตน์



“นปช.” ด่ากลับ “ไอ้ตูบ ประยุทธ์ ”การข่าวเฮงซวย

"นปช." ท้ากลับ "ไอ้ตูบ ประยุทธ์ " ล้มประชามติเลย ซัดการข่าวเฮงซวย-สติแตกใส่ความนปช.อยู่เบื้องหลังนศ.เคลื่อนไหวคว่ำร่างฯ "เต้น"ย้ำเดินหน้าจ้อไม่รับรธน.แม้พ.ร.บ.ประชามติมีผล

-----------------------------------------------------------------------------

วันนี้ (21 เมษายน) นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานนปช.ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีระบุว่าหากการทำประชามติเกิดความวุ่นวายก็จะยกเลิก ว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่ต้องมาท้าทายคนไทย ยกเลิกไปเลย เพราะแต่ละวันก็ออกมาข่มขู่อยู่แล้ว แม้จะตั้งนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) มาร่างรัฐธรรมนูญ แต่พล.อ.ประยุทธ์ทำเสมือนเป็นเจ้าของร่างรัฐธรรมนูญหรือเป็นกกต.เสียเอง มันกงการอะไร อยากเลิกก็เลิกไปเลย ถ้าจิตใจคับแคบไม่ยอมรับความเห็นต่างและถ้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)อยากจะอยู่เป็นชาติก็อยู่ไปเลย แต่ถ้าคืนประชาธิปไตยต้องมาคืนมาให้ครบ พล.อ.ประยุทธ์ก็มี 1 สิทธิ์ 1 เสียงเท่าประชาชนทั่วไปไม่มีสิทธิ์จะมาทำอะไรมากกว่านี้ แต่เวลานี้สำคัญตัวผิดคิดว่าเป็นเจ้าของร่างฯและเป็นเจ้าหน้าที่กกต.

-
นายจตุพร กล่าวว่า ส่วนกรณีที่นายกฯระบุว่านปช.อยู่เบื้องหลังการชุมนุมของกลุ่มนักศึกษาและขนคนมาร่วมมาร่วมชุมนุมนั้นนายกฯควรตรวจสอบการข่าวว่าเป็นการข่าวที่ขาดสติ และสติแตกที่สุด นำข้อมูลรายงานอันเป็นเท็จ พล.อ.ประยุทธ์ได้การข่าวที่เฮงซวยได้อย่างไร ควรมีสาระไม่ใช่ไร้สาระ ต้องเคารพการตัดสินใจของคนรุ่นใหม่ ถ้าคนอย่างตนและนปช.ทำต้องทำซึ่งหน้า ไม่มีพฤติกรรมเป็นอีแอบ พวกเราไม่เกี่ยวข้องซ้ำยังบอกให้แกนนำยืนอยู่ให้ห่างกลุ่มนักศึกษาเพราะเกรงจะไปทำลายความน่าเชื่อถือของกลุ่มนักศึกษา ยืนยันไม่มีเบื้องหลังและไม่มีความเกี่ยวโยงกับความเคลื่อนไหวของบุตรสาวของนายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย นักศึกษาก็ไม่มีเบื้องหลังแล้วตัวท่านมีเบื้องหลังหรือไม่ ส่วนการขนคนไปร่วมชุมนุมนั้นมีเพียงนายอานนท์ นำภา ทนายความ ติดรถจากสวนเงินมีมาของช่องพีชทีวีเพื่อไปยังบิ๊กซีลาดพร้าวเท่านั้น

-
ด้านณัฐวุฒิ กล่าวว่า พวกเรายืนยันจะไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ แม้พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญจะมีผลบังคับใช้ ก็ยังจะแสดงความคิดเห็น เชื่อมั่นว่าถ้าบ้านเมืองคุยอย่างสันติแม้จะเห็นต่างกันในท่วงทำนองแบบวิญญูชนก็สามารถเดินไปด้วยกันได้ อยากให้ผู้มีอำนาจรับทราบประเด็นนี้และกรุณาทำความเข้าใจ ไม่ใช่การท้าทาย หรือประกาศเผชิญหน้า แต่ต้องการประกาศว่าประชาชนมีความเห็นอย่างไร หวังว่าจะพื้นที่ในหัวใจของผู้มีอำนาจให้ประชาชนที่เห็นต่างได้มีที่ยืนบ้างแต่ถ้าไม่มีเราก็จะยืนอยู่จุดเดิมของเรา

-
ส่วนนพ.เหวง โตจิราการ แกนนำนปช.กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้คสช.ไปประชุมและตกลงกันให้เรียบร้อยก่อนว่าพฤติกรรมแบบใดสามารถทำได้หรือไม่ได้ เนื่องจากพล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ออกมาให้สัมภาษณ์ไม่ตรงกันทำให้ประชาชนสับสน ทั้งที่เป็นคสช.ด้วยกันทั้งนั้น

-

Cr.  MatichonOnline