Saturday, April 2, 2016

ส.ว.แต่งตั้งคุมการเมืองยุคประชาธิปไตยครึ่งใบ

ส.ว.แต่งตั้งคุมการเมืองยุคประชาธิปไตยครึ่งใบ
-
สุขุม กล่าวว่า ในยุคนั้น ข้าราชการสามารถเป็น ส.ว. ได้ มาจากการแต่งตั้งโดยนายกรัฐมนตรีคนเดียว พลเอกเกรียงศักดิ์เป็นคนตั้ง ส.ว. ชุดแรก อำนาจของ ส.ว. ตอนนั้นมีอยู่ 2 ช่วง ช่วงแรกมีอำนาจเท่ากับ ส.ส. คือร่วมโหวตในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี รวมทั้งโหวตกฎหมายสำคัญๆ และการแก้รัฐธรรมนูญ กล่าวได้ว่าเป็นดุลพินิจของรัฐบาลที่จะให้ ส.ว. ร่วมโหวตในเกือบทุกเรื่อง ส่วนช่วงที่ 2 ส.ว. เหลือเฉพาะหน้าที่กลั่นกรองกฎหมายเท่านั้น แต่ ส.ว. ก็ยังมีบทบาทสูงในทางการเมือง
-
"ก็ตัวประธานรัฐสภามาจาก ส.ว. สมัยก่อนการเลือกนายกฯ ไม่ได้ระบุว่าต้องทำในที่ประชุมสภา อย่างตอนปี 2526 ที่คุณอุทัยได้เป็นประธานสภาผู้แทน คุณจารุบุตร เรืองสุวรรณ เป็นประธานวุฒิสภาและก็เป็นประธานรัฐสภาด้วย คุณอุทัยออกมาบอกว่าเดี๋ยวเราจะประชุมเลือกนายกฯ กันแล้วเอาชื่อไปให้ประธานรัฐสภาเพราะต้องเป็นคนรับสนองพระบรมราชโองการ คุณจารุบุตรบอก เปล่า ผมไม่มีสิทธิ์เรียกประชุม ส.ส. ผมเป็นคนหานายกฯ เพราะฉะนั้นขอให้หัวหน้าพรรคมาเสนอชื่อกับผมว่าจะให้ใครเป็นนายกฯ ผมจะดูคะแนนตามที่พรรคต่างๆ เสนอ คือเขาไม่ให้ประชุมสภาผู้แทนเพื่อเลือกนายกฯ"
-
"เรื่องวิ่งเต้นเป็น ส.ว. ไม่ต้องห่วงเลย ทุกยุคทุกสมัย ยุคผม ผมไม่ทราบหรอกครับว่าเขาวิ่งเต้นกันยังไง แต่ว่าก็เคยทราบมา เช่น อาจารย์บางคนในมหาวิทยาลัยที่ไม่ได้เป็นอธิการบดีก็ได้เป็น ส.ว. มีคนพูดว่า อาจารย์ไม่รู้เหรอว่าเขาทำยังไงถึงได้เป็น เขาไปกราบเมียของนายพลคนหนึ่ง ปวารณาตัวรับใช้ ซึ่งบางทีเราก็นึกไม่ถึงว่าคนเราจะขายศักดิ์ศรีได้ถึงขนาดนั้น"
-
พรรค ส.ว. พรรคใหญ่สุดหลังรัฐธรรมนูญ 2559
-
รศ.สุขุม วิเคราะห์ว่า ตอนนี้ สิ่งที่ผู้ถืออำนาจพยายามทำคือไม่ให้พรรคเพื่อไทยมีโอกาสเป็นรัฐบาล ซึ่งด้วยระบบเลือกตั้งที่วางเอาไว้ไม่สนับสนุนให้มีพรรคขนาดใหญ่ พรรคที่จะมีที่นั่งมากสุดก็ไม่น่าเกินร้อยหกสิบ ร้อยเจ็ดสิบ แต่การจะเป็นรัฐบาลพรรคเดียวต้องมีที่นั่ง 260 ขึ้นไป
-
"ผมไม่แน่ใจว่าพรรคการเมืองขนาดกลางจะมีอำนาจต่อรองเพิ่มขึ้นหรือเปล่า แต่ผมว่าจะทำอะไรไม่ค่อยได้ ถ้ารัฐธรรมนูญผ่าน แล้วมีการเลือกตั้ง มันจะได้รัฐบาลที่ว่านอนสอนง่าย รัฐบาลที่จะถูกควบคุมโดย ส.ว. ถ้า ส.ว. มองดูว่าไม่เป็นไปตามยุทธศาสตร์ที่เขาร่างไว้และกำหนดให้รัฐบาลต้องรายงานทุก 3 เดือน ถ้าไม่ทำก็ร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ จบ รอบนี้ ดูแล้วเขาจะใช้ ส.ว. นี่แหละ ไม่ให้นายกฯ ไม่ให้รัฐมนตรีกระดิกได้ ในยุคชาติชายไม่มีกฎบังคับว่ารัฐบาลต้องทำอะไรบ้าง แต่รอบนี้มียุทธศาสตร์บอกว่าต้องทำอะไรๆ บ้าง คือถ้า คสช. ตั้งนายกฯ เองอาจจะถูกต่อต้าน จึงมาใช้วิธีคุมด้วยกฎ แล้วเอาองค์กรมากำกับ ก็ต้องคอยดูกันว่าอีกฝั่งเขาจะดิ้นยังไง ถ้าเขาได้ขึ้นมา"
-
"การเมืองไทยหลังรัฐธรรมนูญ 2559 พรรค ส.ว. น่าจะเป็นพรรคที่ใหญ่ที่สุด เพียงแต่ว่าเขาใช้ในทางนิติบัญญัติและควบคุม ไม่ได้ใช้อำนาจบริหาร"
-
"วันก่อนมีคนให้ผมไปทอล์คโชว์เรื่องประเทศไทยก้าวไปข้างหน้า ผมบอกว่าถ้าผมปิดตาทุกคน แล้วเดินจูงไป ท่านทั้งหลายก็จะรู้สึกว่าก้าวไปข้างหน้า แต่ทันทีที่ผมเปิดผ้าปิดตาออก พวกท่านก็จะหันมาต่อว่าผม ทำไมพามาเจอของเก่าแบบนี้ เพราะมันไม่ได้ก้าวไปข้างหน้า แต่เดินเป็นวงกลม"
-
หน้าตาการเมืองไทยมีโอกาสย้อนหลังกลับสู่ปี 2521 ถึงแม้อำนาจหน้าที่ของ ส.ว. ในร่างรัฐธรรมนูญ 2559 กับในยุคประชาธิปไตยครึ่งใบจะมีความแตกต่างกันในรายละเอียด แต่หลักการแย่งยื้ออำนาจจากนักการเมืองและการควบคุมการเมืองไม่ได้แตกต่างกัน ทว่า สิ่งที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจนคือบริบทแวดล้อมต่างจากเมื่อ 40 ปีก่อนมาก คำถามคือระบบการเมืองที่ถอยหลังไป 4 ทศวรรษจะตอบโจทย์ประชาชนได้อย่างไร และหากตอบไม่ได้ มันจะนำไปสู่อะไร


42D6BC2C-F33F-4E4E-B376-535C6AB86076

จากไลน์....

บทเรียนจากการสอดส่องประชาชนในต่างประเทศ: เมื่อรัฐลุแก่อำนาจและทำลายเศรษฐกิจดิจิทัล

บทเรียนจากการสอดส่องประชาชนในต่างประเทศ: เมื่อรัฐลุแก่อำนาจและทำลายเศรษฐกิจดิจิทัล

เมื่อ 31 มี.ค. 2559 โดย iLaw
2985
ชุดกฎหมายมั่นคงดิจิทัลกำลังจะกลับมา หลังจากคณะกรรมการกฤษฎีกาได้พิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าวเสร็จสิ้น ก่อนที่จะส่งให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบและส่งให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป ทั้งนี้ ในหลักการและเนื้อหาสาระของกฎหมายยังคงมีปัญหาที่ควรถกเถียงกันอีกมา โดยบทเรียนจากต่างประเทศก็ได้พิสูจน์แล้วว่า การให้อำนาจเจ้าหน้าที่ในกฎหมายจนเกินความจำเป็นและไม่ได้สัดส่วนเหล่านี้ ไม่มีประสิทธิภาพในการปราบปรามการกระทำความผิด และเสี่ยงต่อการใช้ในทางที่ผิด รวมถึงอาจส่งผลเสียต่อสิ่งที่เรียกว่า "เศรษฐกิจดิจิทัล" อีกด้วย
 
อ่านต่อที่ http://ilaw.or.th/node/4072

ประเทศไทย กำลังก้าวไปสู่อนาคตที่น่าสะพึงกลัวนัก! (บทความ ดร. เพียงดิน รักไทย)


ประเทศไทย กำลังก้าวไปสู่อนาคตที่น่าสะพึงกลัวนัก!

เนื่องจากเครือข่ายระบอบราชาธิปไตย ได้ตัดสินใจเลือกวิธีอันกดขี่ข่มเหง (oppression) ทั้งด้วยตัวบทกฎหมายที่พวกเขาสร้างขึ้นเอง กลไกที่เจ้าไทยสร้างไว้เรียกใช้ วัฒนธรรมความเชื่อที่กดจิตสำนึกปวงชนให้สยบยอม รวมถึงมาตรการในการทำให้เกิดความกลัวหลายระดับ  วันนี้ ทางเลือกที่จะเป็นการประนีประนอมของสังคมไทย จึงเหลือน้อยลงทุกที 

รัฐธรรมนูญฉบับที่เป็นเผด็จการเชิงโครงสร้างอย่างสุดโต่ง และพฤติกรรมการบีบจะให้ได้ผลประชามติตามใจพวกตนอย่างบ้าคลั่ง กำลังสร้างให้แรงต้านของฝั่งประชาธิปไตยนิยมยอมรับไม่ได้และเกิดแรงอัดอั้นตันใจชนิดที่รุนแรงถึงขั้นน่าจะใกล้จุดระเบิดเต็มที  

ในเมื่อฝ่ายหนึ่งจะเอาให้ได้ดั่งใจแบบยอมหัก ไม่ยอมงอ เพราะกลัวจะเ "เสียของ"  และอีกฝ่ายหนึ่ง ก็ยอมไม่ได้ เพราะหากยอมก็แปลว่า พ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิง "หมดตัว" เช่นกัน หากเป็นเกมบนโต๊ะพนัน ก็เรียกกันว่า เทกันหมดหน้าตัก หรือ Winner takes all! เลยทีเดียว

หากรัฐธรรมนูญผ่านประชามติ ด้วยเล่ห์กลและอำนาจมืด ก็ไม่ได้แปลว่า ฝั่งประชาธิปไตยจะยอมรับได้ แม้ว่าโจรกบฏจะมีข้ออ้างว่าชอบธรรมได้เต็มปากยิ่งขึ้น แต่มันจะไม่สามารถเพิ่มการยอมรับหรือสยบยอมในฝั่งประชาธิปไตย ที่รู้เท่าทันและเห็นถึงอันตรายของการมีระบอบเผด็จการราชาธิปไตยที่เขม็งเกลียวกระชับวงจรให้มีฤทธิ์พิฆาตเหี้ยมโหดยิ่งขึ้น และนั่นก็แปลว่า เผด็จการก็จะได้เปรียบในการอ้างเพื่อจัดการกับผู้หัวแข็งและเรียกร้องประชาธิปไตย  กล่าวคือ การเผชิญหน้าในเชิงท้าทายและการใช้กำลังก็จะมีความเป็นไปได้สูงขึ้นด้วย



​หากรัฐธรรมนูญไม่ผ่าน ความเสี่ยงต่อการเผชิญหน้าก็จะไม่ได้ลดน้อยลง เพียงแต่ฝั่งเผด็จการ จะหาข้ออ้างด้านความชอบธรรมในการรักษาอำนาจและคุมเกมอำนาจก้าวต่อไปยากยิ่งขึ้น และประชาชนฝั่งนิยมประชาธิปไตย ก็จะมีข้ออ้างในการลุกฮือขับไล่ฝั่งเผด็จการได้มากขึ้น แต่ไม่ได้แปลว่า ฝั่งเผด็จการจะลดเจตนารมย์ในการใช้กำลังสำหรับการกดขี่ให้ศัตรูสยบยอม อันเป็นสันดานของเจ้าของระบอบราชาธิปไตยที่ฝังรากลึกในอวัยวะสำคัญของเครือข่ายเผด็จการหลงยุคนี้

ภารกิจของการช่วยบ้านเมืองให้พ้นจากสงครามกลางเมือง เลือดท่วมท้องช้าง จึงเป็นสิ่งที่คนไทยที่มีบารมีและความสามารถต้องมานั่งระดมสมองและคิดแผนปฏิบัติการกู้ชาติโดยไม่ชักช้า... เพราะนาฬิกาเวลาสู่ความพินาศแบบใกล้สิ้นชาติ มันเดินทุกวินาที ไม่ได้หยุดหย่อน

ให้เป็นห่วงแผ่นดินแม่ยิ่งนัก

piangdin
April 2, 2016
San Francisco, California​

Friday, April 1, 2016

แม่ลูกจันทร์: ความเสียหายอันมหันต์ อันเกิดจากรัฐธรรมนูญโจร ที่ตัดการศึกษา ม. ปลาย ฟรี

รัฐธรรมนูญฉบับ 2540 และรัฐธรรมนูญฉบับ 2550 ที่ถูกฉีกทิ้งไป กำหนดให้เด็ก ไทยทุกคนได้รับการศึกษาฟรีอย่างมีคุณภาพ 12 ปี

พูดง่ายๆ เด็กไทยได้เรียนฟรี ตั้งแต่ชั้น ป.1 จนถึงชั้น ม.6 อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม

"แม่ลูกจันทร์" กราบเรียนว่า ร่างรัฐธรรมนูญ (ร่างแรก) ของ อจ.มีชัย ฤชุพันธุ์ เกิดความคิดพิสดาร ตัดโครงการเรียนฟรีจาก 12 ปี เหลือแค่ 9 ปี

ปรากฏว่า เกิดกระแสคัดค้านกันอึกทึกครึกโครม จนในที่สุด "อจ.มีชัย" ต้องยอมแก้ร่างรัฐธรรมนูญมาตรา 54 กลับมาเป็นเรียนฟรี 12 ปี

แต่แทนที่จะให้เรียนฟรีตั้งแต่ ป.1 ถึง ม.6 หรือ ปวช. อย่างเดิม

อจ.มีชัย กลับทำตัวเป็น "คุณปู่รู้ดี" เปลี่ยนระบบเรียนฟรีให้เริ่มจากชั้นอนุบาลถึงมัธยม 3

ส่วนใครจะเรียนต่อ ม.ปลาย หรือใครจะเรียนสายอาชีพ ปวช. พ่อแม่ผู้ปกครองต้องแบกภาระจ่ายค่าเรียนเอาเอง

"แม่ลูกจันทร์" มองว่า การร่นระยะเรียนฟรี 12 ปี จากอนุบาลถึง ม.3 เป็นแนวคิดที่ผิดจังเบอร์!!

เพราะค่าใช้จ่ายเด็กนักเรียนชั้นอนุบาลน้อยกว่าค่าใช้จ่ายเด็กนักเรียนชั้นมัธยมปลายกว่า 2 เท่าตัว

แถมค่าใช้จ่ายสายอาชีวะ บวกค่าอุปกรณ์การเรียนสาย ปวช.ก็สูงกว่าเด็ก อนุบาลกว่า 3 เท่าตัว

"แม่ลูกจันทร์" เชื่อว่า ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ของ อจ.มีชัย ต้องการลดภาระรายจ่ายด้านการศึกษาของรัฐบาล

โดยผลักภาระให้ประชาชนพ่อแม่ผู้ปกครองรับไปเต็มๆ

การอ้างว่าเพื่อไม่ให้คนจนเสียเปรียบคนรวย จึงเป็นเหตุผลที่ห่วยแตกสิ้นดี

เพราะในความจริง...ร่างรัฐธรรมนูญฉบับมีชัย ทำให้เด็กนักเรียนที่มีพ่อแม่ยากจนหมดโอกาสที่จะได้เรียนต่อชั้นมัธยมปลาย หรือเรียนต่อสายวิชาชีพ ปวช.

ถึงจะอ้างว่ารัฐจะจัดกองทุนการศึกษาให้เด็กยากจนกู้ยืม

"แม่ลูกจันทร์" ถาม อจ.มีชัย ว่า การได้สิทธิเรียนฟรีกับการต้องวิ่งเต้นไปกู้ยืมกองทุนไปจ่ายค่าเรียน

แบบไหนประชาชนจะได้ประโยชน์จากรัฐมากกว่ากัน??

แต่ที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้น ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ยังสวนทางนโยบายปฏิรูป การศึกษาของรัฐบาล คสช.อย่างสิ้นเชิง

นายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพิ่งประกาศแหม่บๆ ว่ารัฐบาลต้องการส่งเสริมให้เด็กไทยเรียนสายอาชีวะอย่างสุดลิ่มทิ่มประตู

เนื่องจากประเทศไทยต้องการแรงงานระดับ ปวช.ปีละ 1 ล้านคน

ปัจจุบันเราผลิตเด็กไทยที่จบสายอาชีวะเพียงปีละ 4 แสนคน ตลาดแรงงานยังต้องการแรงงานอาชีพระดับ ปวช. ปวส. เพิ่มอีกปีละ 6 แสนคน

"แม่ลูกจันทร์" สรุปว่า ร่างรัฐธรรมนูญของ อจ.มีชัย ที่ตัดสิทธิเรียนฟรี ระดับมัธยมปลายและระดับ ปวช.

จะเป็นอุปสรรคทำให้เด็กไทยเรียน สายอาชีพน้อยลง

เพราะพ่อแม่ผู้ปกครองที่มีฐานะยากจนไม่มีปัญญาหาเงินส่งลูกหลานเรียนต่อ ปวช.

ผลดี เด็กไทยเมื่อจบชั้น ม.3 ก็ต้องออกหางานทำ

เด็กที่จบมัธยม 3 เป็นได้แค่กรรมกรรับจ้างรายวัน

กลายเป็นผู้ด้อยโอกาสในสังคมที่รัฐต้องช่วยเหลือดูแล

ผลร้ายที่ตามมาคือ แรงงานฝีมือที่จะรองรับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานประเทศก็จะขาดแคลนอย่างรุนแรง

เห็นมั้ยคุณโยม...รัฐธรรมนูญมาตราเดียว...สร้างความเสียหายได้บานตะไท.

Thursday, March 31, 2016

กษัตริย์ไทยไม่เคยยิ้ม ตอน 40 เดินหน้ายกตน เจาะยางประชาธิปไตย (ต่อ)

กษัตริย์ไทยไม่เคยยิ้ม ตอน 40 เดินหน้ายกตน เจาะยางประชาธิปไตย (ต่อ)

https://youtu.be/LDeD-5_2858

หรือ

https://youtu.be/n5Z3k4lDVhw

หรือ

https://youtu.be/QuC6zVG-ujE

----------------------

สนับสนุนแนวทางมดแดงล้มช้าง ของ คณะราษฎรเสรีไทย กับ ดร. เพียงดิน

ส่งข้อมูลลับผ่านช่องทางที่ปลอดภัยทางลิ้งค์ต่อไปนี้

http://tinyurl.com/o2rzao8

หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt

หรือรายงานการปฏิบัติงานสร้างเครือข่าย ทางอีเมล์ 4everche@gmail.com

 

ย้อนหลัง....

 

 

กษัตริย์ไทยไม่เคยยิ้ม ตอน 39 เชิดตัวชูตน และเจาะยาง-บ่อนทำลาย ประชาธิปไตย

https://youtu.be/OPFEyfmJxE8

หรือ

https://youtu.be/m_pZtmbJHSE

หรือ

https://youtu.be/OrhVS5Fz15o

----------------------

สนับสนุนแนวทางมดแดงล้มช้าง ของ คณะราษฎรเสรีไทย กับ ดร. เพียงดิน

ส่งข้อมูลลับผ่านช่องทางที่ปลอดภัยทางลิ้งค์ต่อไปนี้

http://tinyurl.com/o2rzao8

หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt

หรือส่งอีเมล์ไปที่ 4everche@gmail.com

 

************************

 

กษัตริย์ไทยไม่เคยยิ้ม ตอน 38 พฤษภาเลือด 2535 และพระราชาเจ้าเล่ห์

https://youtu.be/mEVIE7zHyOg

หรือ

https://youtu.be/15MLWWGCk6U

 

******************************************

 

 

********************

กษัตริย์ไทยไม่เคยยิ้ม ตอน 37 รสช.-พฤษภา 2535 & ประเทศข้า ใครอย่าแตะ! 2

https://youtu.be/fD0HkaYRBpE

หรือ

https://youtu.be/4PjzFiG2e9U

หรือ

https://youtu.be/zrhMhteIa9I

----------------------

 

********************

กษัตริย์ไทยไม่เคยยิ้ม ตอน 36 รสช.-พฤษภา 2535 & ประเทศข้า ใครอย่าแตะ! 1

https://youtu.be/YGUMx2tvHVQ

หรือ

https://youtu.be/XjUs6Nh2ngg

----------------------

 

กษัตริย์ไทยไม่เคยยิ้ม ตอน 35 ตอน เรื่องวุ่น ในวังอลเวง และการชูเปรม เพื่อค้ำบัลลังก์

https://youtu.be/UsiLVukMxM4

หรือ

https://youtu.be/KToVhgzkHvo

หรือ

https://youtu.be/lzxo0Zg5hK8

หรือ

https://youtu.be/CLNcYGl8rz8

 

 

----------------------

สนับสนุนแนวทางมดแดงล้มช้าง ของ คณะราษฎรเสรีไทย กับ ดร. เพียงดิน

ส่งข้อมูลลับผ่านช่องทางที่ปลอดภัยทางลิ้งค์ต่อไปนี้

http://tinyurl.com/o2rzao8

หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt

หรือส่งอีเมล์แจ้งผลการปฏิบัติงานไปที่ Email: 4everche@gmail.com

____________________________________________________

Wednesday, March 30, 2016

นักวิชาการยกตัวเลขแย้ง “มีชัย” ยันเรียนฟรีถึงม.ปลายจำเป็น หากจะลดความเหลื่อมล้ำ

นักวิชาการยกตัวเลขแย้ง "มีชัย" ยันเรียนฟรีถึงม.ปลายจำเป็น หากจะลดความเหลื่อมล้ำ

เครดิตและอ่านข่าวฉบับเต็มได้ที่  http://www.matichon.co.th/news/89775

เมื่อวันที่ 30 มีนาคม นายเดชรัตน์ สุขกำเนิด อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แสดงความเห็นถึงร่างรัฐธรรมนูญฉบับล่าสุดกับประเด็นการเปลี่ยนแปลงเรื่องการ ศึกษา โดยระบุว่า

"สิทธิเรียนฟรี ม.ปลาย กับ ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา"

ตาม ที่น้องๆ เยาวชน กลุ่มการศึกษาเพื่อความเป็นไททวงสิทธิการเรียนฟรี ในระดับ ม.ปลาย ที่ถูกตัดออกไปจากร่างรัฐธรรมนูญฉบับสมบูรณ์ ที่เพิ่งเผยแพร่เมื่อวานนี้

ล่าสุด นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ชี้แจงว่า กรธ. ได้บัญญัติให้รัฐต้องสนับสนุนการเรียนการสอนในชั้นก่อนการศึกษาภาคบังคับ จนถึงชั้น ม.3 รวมเวลา 12 ปีเช่นเดิม เพียงแต่มีการร่นช่วงอายุลงมาเท่านั้น เพื่อความเท่าเทียมกันระหว่างคนจนและคนรวย

เรื่องนี้มีข้อเท็จจริงหลายประการที่ต้องอธิบาย

ข้อ เท็จจริงประการแรกคือ รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะได้ปรับเปลี่ยนกรอบการดําเนินการจาก 12 ปีเป็น 15 ปี ในชื่อ "โครงการเรียนฟรี 15 ปี อย่างมีคุณภาพ" ครอบคลุมทั้งสายสามัญและสายอาชีวศึกษาในระดับชั้นอนุบาล-ปวช.3 อยู่ โดยให้การอุดหนุนค่าเล่าเรียนต่อหัวนักเรียนในรูปตัวเงินให้แก่สถานศึกษาและ ครอบครัวนักเรียน

แต่ตามร่างรัฐธรรมนูญใหม่ หน้าที่ของรัฐจะมีเพียงการสนับสนุนให้นักเรียน เรียนฟรีจนถึง ม.3 (ซึ่งเป็นการศึกษาภาคบังคับตามร่างรัฐธรรมนูญใหม่) เท่านั้น ส่วนสิทธิของประชาชนนั้นหายไปกลายเป็นหน้าที่ของรัฐแทนแล้ว

นอกจากนี้ นายมีชัยยังอธิบายเหตุผลที่ตัดออกว่า "…อันนี้ต้องเข้าใจว่าทุกวันนี้ระบบการศึกษามันไม่ทัดเทียมกัน เพราะเด็กจะพัฒนาได้เนี่ยต้องอยู่ระหว่าง 2-5 ขวบ ซึ่งคนมีตังค์ได้รับการพัฒนา แต่คนจนไม่ได้รับการพัฒนา เพราะฉะนั้นพอถึงมัธยมปลายก็เสียเปรียบ สู้กันไมได้เพราะตอนนั้นสมองไม่พัฒนาแล้ว

สิ่งที่เราทำก็คือการร่น 12 ปีลงมาข้างล่างเพื่อรองรับคนจน แล้วพอถึงมัธยมปลาย คนจนก็จะได้รับการดูเพราะจะมีกองทุนการศึกษาให้ ส่วนคนมีสตางค์ก็ออกสตางค์ เพราะฉะนั้นความทัดเทียมมันถึงจะเกิดขึ้นได้จริง ถ้าปล่อยไว้อย่างนี้คนจนก็จะแย่ เสียเปรียบ…" นี่คือคำอธิบายของนายมีชัย

แต่ จากผลการศึกษาของ ดร. ดิลก ลัทธพิพัฒน์ ที่ทำไว้อย่างน่าสนใจว่า ก่อนที่เราจะมีรัฐธรรมนูญ 2540 เราจะเห็นว่า สัดส่วนการเข้าเรียนระดับม.ปลาย (กราฟทางซ้ายมือ) ของกลุ่มครัวเรือนที่มีรายได้สูงสุด 25% แรกกับกลุ่มครัวเรือนที่มีรายได้ต่ำสุด 25% นั้นแตกต่างเหลื่อมล้ำกันมาก ในช่วงนั้น กลุ่มครัวเรือนที่มีรายได้ต่ำสุด 25% มีสัดส่วนได้เข้าเรียน ม.ปลาย ไม่ถึงร้อยละ 10 เท่านั้น

โชคดีที่เรามีรัฐธรรมนูญ 2540 เพราะว่า หลังจากนั้น สัดส่วนการเข้าเรียนของกลุ่มครัวเรือนที่มีรายได้ต่ำสุด 25% เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จนสูงกว่าร้อยละ 40 ในปัจจุบัน (กลุ่มครัวเรือนที่รวยที่สุด 25% แรกมีอัตราการเข้าเรียนประมาณร้อยละ 80) และความเหลื่อมล้ำระหว่างกลุ่มครัวเรือนที่มีรายได้สูงสุด 25% แรกกับกลุ่มครัวเรือนที่มีรายได้ต่ำสุด 25% เริ่มหดแคบเข้า เพราะฉะนั้น การระบุสิทธิการเรียนฟรี 12 ปีไว้ มีส่วนช่วยที่จะลดความเหลื่อมล้ำดังกล่าวลงได้มากทีเดียว

เพื่อเปรียบ เทียบกัน อยากให้ลองมองภาพทางขวามือ สัดส่วนการเข้าเรียนระดับอุดมศึกษา ซึ่งสิทธิการเรียนฟรียังครอบคลุมไม่ถึง เราจะเห็นว่า ความเหลื่อมล้ำระหว่างกลุ่มครัวเรือนที่มีรายได้สูงสุด 25% แรกกับกลุ่มครัวเรือนที่มีรายได้ต่ำสุด 25% กลับขยายห่างออกไปมากขึ้น แม้กระทั่งปัจจุบัน กลุ่มครัวเรือนที่มีรายได้ต่ำสุด 25% ยังมีสัดส่วนได้เข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัยไม่ถึงร้อยละ 10 ด้วยซ้ำครับ

เพราะ ฉะนั้น สิทธิการเรียนฟรีของประชาชน ในระดับ ม.ปลาย จึงเป็นสิ่งที่สำคัญในการลดความเหลื่อมล้ำสำหรับคนรุ่นหน้า เป็นความหวังหนึ่งในการพาให้สังคมไทย พ้นจากความเหลื่อมล้ำที่เราเผชิญอยู่ในปัจจุบัน

ผมจึงอยากถามนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ใช้ข้อมูลหลักฐานหรือผลการศึกษาใดในการชี้แจงดังกล่าวครับ ถ้ามีรบกวนแจ้งด้วยครับ เพราะผมก็อยากเรียนรู้แง่มุมที่แตกต่างเช่นกันครับ ผมพร้อมที่จะศึกษาข้อมูลใหม่ๆ ที่แตกต่างจากที่ผมรู้ครับ

แต่ถ้าคำชี้แจงดังกล่าวเป็นกล่าวอ้างลอยๆ โดยไม่มีผลการศึกษายืนยัน ก็เป็นเรื่องที่น่ากังวลอย่างยิ่ง

49

รายการคนต้องเท่ากับคนประจำวันที่ 30 มีนาคม 2559 โดยคุณจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ ภัยจากรัฐธรรมนูญฉบับนายมีชัย ฤชุพันธุ์

รายการคนต้องเท่ากับคนประจำวันที่ 30 มีนาคม 2559 โดยคุณจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ
ภัยจากรัฐธรรมนูญฉบับนายมีชัย ฤชุพันธุ์