Saturday, March 26, 2016

เรื่องจริงอันแสนเศร้า ชาวนา ทำนา ปลูกข้าว ส่งลูกสาวจบปริญญาโท ... แต่ดันไปสนับสนุน กปปส. ล้มรัฐบาลที่ช่วยชาวนา

พ่อแม่ เป็นชาวนา ในภาคกลาง ทำนาปี นาปรัง สองปี ห้ารอบ เอาข้าวเปลือก เข้าโครงการจำนำข้าว ได้เงินมา ส่งช่วยลูกสาว ที่ทำงานและเรียน ปริญญาโทไปด้วย ข้าวของเครื่องใช้ เกือบทุกอย่าง ที่พ่อแม่ซื้อให้ มาจากเงินจำนำข้าว

ในช่วงเหตุการณ์ ขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ลูกสาวที่เป็นผู้มีการศึกษา เป็นชนชั้นกลางในเมือง แต่ยังขอเงินพ่อแม่ใช้ ไปร่วมม็อบ กปปส. ไปเป่านกหวีดไล่ยิ่งลักษณ์ อัพรูปลงเฟสบุ๊ค ซื้อของที่ระลึก บริจาคเงิน ให้ลุงกำนัน เพื่อเอาไปช่วยชาวนา ภาคภูมิใจที่ได้รับใช้ชาติ ดีใจที่ทหารออกมา ทำรัฐประหาร จะได้ปฏิรูป ก่อนเลือกตั้ง

เวลาผ่านไป เกือบสองปี หลังรัฐประหาร ลูกสาวตกงาน เพราะบริษัทที่ทำงานอยู่ ย้ายฐานการผลิต ไปต่างประเทศ
 พ่อแม่ทำนาได้ เพียงนาปี เพราะถูกห้ามทำนาปรังมา จะสองปีแล้ว ข้าวเปลือก ก็ราคาตกต่ำ แถมยังต้องซื้อข้าวสารกิน ในราคาเดิม   มาปีนี้ เจอภัยแล้ง โหมกระหน่ำ เงินเก็บ ที่พ่อแม่พอมีอยู่บ้าง ก็ต้องส่งให้ลูกสาว ที่ไม่ยอมกลับมาอยู่บ้าน ยังหางานทำที่กรุงเทพ

พ่อแม่ คิดถึง จำนำข้าว อยากเลือกตั้ง ให้บ้านเมือง กลับสู่ภาวะปกติ ที่เคยเป็น
  แต่ลูกสาวยังบอกว่า ที่บ้านเมืองเลวร้าย อยู่ทุกวันนี้เป็นเพราะ ระบอบทักษิณ

ท่านอ่านเรื่องนี้แล้ว รู้สึกอย่างไร 
  นี่คือเรื่องจริง ที่เกิดอยู่ในบ้านเมืองนี้
 พ่อแม่ เป็นชาวนา ป.4 แต่ลูกสาว จบปริญญาโท
 การศึกษา ของประเทศนี้ มันสร้างคนได้จริงหรือ หรือมันอยู่ที่คน

หรือมันเป็นอย่างที่ว่า ขายข้าว ขายนา ขายวัว ส่งควายเรียน

กษัตริย์ไทยไม่เคยยิ้ม ตอน 34 เรื่องวุ่น ๆ ของวังอลเวง และการอุ้มเปรมไว้คู่บัลลังก์

กษัตริย์ไทยไม่เคยยิ้ม ตอน 34 เรื่องวุ่น ของวังอลเวง และการอุ้มเปรมไว้คู่บัลลังก์

https://youtu.be/77xWpIT4PaM

หรือ

https://youtu.be/roSr8Xvw4iw

หรือ

https://youtu.be/uGuAOfxJ4pk

 

----------------------

สนับสนุนแนวทางมดแดงล้มช้าง ของ คณะราษฎรเสรีไทย กับ ดร. เพียงดิน

ส่งข้อมูลลับผ่านช่องทางที่ปลอดภัยทางลิ้งค์ต่อไปนี้

http://tinyurl.com/o2rzao8

หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt

หรือส่งรายละเอียดและรายงานผลการปฏิบัติงานได้ทางอีเมล์

4everche@gmail.com

 

******************

เย็นลมป่า-อาคม ซิดนี่ย์ เมื่อน้องเล็กหักดิบพี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์ "บิ๊กป้อมจะสู้หรือถอย

รายการเสรีชนค้นหาความจริงประจำวันที่ 26 มีนาคม 2559 โดยเย็นลมป่า-อาคม ซิดนี่ย์
เมื่อน้องเล็กหักดิบพี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์ "บิ๊กป้อมจะสู้หรือถอย"

Friday, March 25, 2016

ดร. เพียงดิน รักไทย 26 มีนาคม 2559: เมื่อ "โจรกบฏ" แบ่งทรัพย์ลงตัว ปวงชนไทยเจองานหนักแน่!!

ดร. เพียงดิน รักไทย 26 มีนาคม  2559: เมื่อ "โจรกบฏ" แบ่งทรัพย์ลงตัว ปวงชนไทยเจองานหนักแน่!!

https://youtu.be/lI8Mrj-Noe8

หรือ

https://youtu.be/UomCpw7MdkA

หรือ

https://youtu.be/wxP6tbIcxSA

----------------------

สนับสนุนแนวทางมดแดงล้มช้าง ของ คณะราษฎรเสรีไทย กับ ดร. เพียงดิน

ส่งข้อมูลลับผ่านช่องทางที่ปลอดภัยทางลิ้งค์ต่อไปนี้

http://tinyurl.com/o2rzao8

หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt

หรือส่งรายละเอียดและรายงานผลการปฏิบัติงานได้ทางอีเมล์

4everche@gmail.com

----------------------

สนับสนุนการเผยแพร่โดย ภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน และมหาวิทยาลัยประชาชน เพื่อสาธารณะประโยชน์ ในการสร้างจิตสำนึกทางประชาธิปไตย สันติวิธี และการเคารพหลักสิทธิมนุษยชน

“ผมเกือบเชื่อ เรื่องทักษิณ......"

ผ่านมาทางไลน์

ผมเกือบเชื่อเรื่องคุณทักษิณอยากเป็นประธานาธิบดีแล้วไหมล่ะ
จนกระทั่งคนที่เผยแพร่ปฏิญญาฟินแลนด์ถูกศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 1 ปีฐานหมิ่นประมาทคุณทักษิณ

ผมเกือบเชื่อเรื่องการทำบุญวัดพระแก้วของคุณทักษิณเป็นการหมิ่นเบื้องสูงแล้วไหมล่ะ
จนกระทั่งอัยการสั่งไม่ฟ้องโดยอ้างรองราชเลขาฯเป็นพยานยืนยันไม่ขัดต่อระเบียบหรือขั้นตอนแต่อย่างไร

ผมเกือบเชื่อเรื่อง กกต.ยุคคุณวาสนา เป็นจำเลยฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบแล้วไหมล่ะ
จนกระทั่งศาลฏีกายกฟ้อง

ผมเกือบเชื่อเรื่อง คุณนพดลลงนามแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชาเป็นการขายชาติแล้วไหมล่ะ
จนกระทั่งศาลฎีกาฯมีมติยกฟ้อง ชี้เป็นการตัดสินใจตามสถานการณ์ ไม่ทำให้ไทยเสียดินแดน

ผมเกือบเชื่อเรื่องกองทุนหมู่บ้าน เป็นนโยบายให้ชาวบ้านซื้อมือถือกับมอเตอร์ไซด์แล้วไหมล่ะ
จนกระทั่งคุณสมคิดนำนโยบายกองทุนหมู่บ้านมาปัดฝุ่นใช้ใหม่

ผมเกือบเชื่อเรื่องการยุบพรรคไทยรักไทย เพราะกรรมการบริหารพรรคจ้างพรรคเล็กลงเลือกตั้งแล้วไหมล่ะ
จนกระทั่งมีศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง ชี้พยานหลักฐานไม่ชัด

ผมเกือบเชื่อเรื่องการรับจำนำข้าวราคาสูงกว่าตลาด ทำให้ชาติขาดทุนแล้วไหมล่ะ
จนกระทั่งมีการรับซื้อยางในราคาสูงกว่าตลาดเช่นกัน

ผมเกือบเชื่อเรื่องการสร้างรถไฟความเร็วสูง ควรรอให้ถนนดินลูกรังเสร็จทั้งประเทศก่อนแล้วไหมล่ะ
จนกระทั่งมีแผนทำรถไฟแม้จะเป็นแค่รถไฟความเร็วปานกลางก็เถอะ

ผมเกือบเชื่อเรื่องสองนปช.เผาเซ็นทรัลเวิร์ลด์แล้วไหมล่ะ
จนกระทั่งศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง โดยชี้พยานหลักฐานไม่พอ

ผมเกือบเชื่อเรื่องสามนปช.ยิงฮ.ทหารแล้วไหมล่ะ
จนกระทั่งศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง ส่วนศาลฎีกาให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบ

ผมเกือบเชื่อเรื่องคุณสุเทพบอกให้ทหารใช้กระสุนปลอมระหว่างขอคืนพื้นที่แล้วไหมล่ะ
จนกระทั่งคุณอภิสิทธ์ให้สัมภาษณ์สื่อนอกเป็นคนอนุญาตให้ใช้กระสุนจริง

ผมเกือบเชื่อเรื่องการตายของคนเสื้อแดงเกิดจากการฆ่ากันเองแล้วไหมล่ะ
จนกระทั่งศาลวินิจฉัยอย่างน้อยสิบกว่าศพตายจากกระสุนที่มาจากฝ่ายเจ้าหน้าที่

ผมเกือบเชื่อเรื่องผังล้มเจ้าเป็นเรื่องจริงแล้วไหมล่ะ
จนกระทั่งคุณสรรเสริญสารภาพกลางศาลว่าผังลัมเจ้านั้นเป็นแค่ความเชื่อของศอฉ.ในขณะนั้นเอง

ผมเกือบเชื่อเรื่องมีแต่นักการเมืองที่เอื้อประโยชน์ให้กับพวกพ้องแล้วไหมล่ะ
จนกระทั่งเห็นเหล่านักลากตั้งทั้งหลายก็ล้วนแต่เอื้อประโยชน์ให้ญาติสนิทมิตรสหายไม่ต่างกัน

ผมเกือบเชื่อเรื่องมีแต่นักการเมืองเท่านั้นที่โกงประเทศชาติแล้วไหมล่ะ
จนกระทั่งเห็นส่วนต่างของราคาจากการจัดซื้อจัดจ้างของพวกที่ไม่ใช่นักการเมือง

ผมเกือบเชื่อเรื่องพรรคใหญ่พามวลชนสู่ท้องถนน เพราะต้องการปฏิรูปประเทศแล้วไหมล่ะ
จนกระทั่งเห็นพลพรรคออกมาคัดค้าน ต่อต้าน แนะนำ เมื่อเห็นรัฐธรรมนูญไม่ได้เอื้อตัวเองดังใจ

ผมเกือบเชื่อเรื่องคนดีต้องการให้แสดงจริยธรรมก่อนกฎหมายลงโทษแล้วไหมล่ะ
จนกระทั่งผมเห็น กกต.ยุติสอบคุณสมบัติของคุณอภิสิทธิ์ โดยอ้างคดียังไม่ถึงที่สุด

และสุดท้ายผมเกือบเชื่อเรื่องรัฐธรรมนูญของคุณมีชัยมีไว้ปราบโกงแล้วไหมล่ะ
จนกระทั่งคุณมีชัยออกมาพูดเรื่องการใช้เอกสารปลอม ไม่ว่าจะต้องการหนีทหารหรือรับเงินเดือนจากการใช้เอกสารเท็จ ไม่ใช่การทุจริต จึงไม่ขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญของคุณมีชัย

Thursday, March 24, 2016

ความหมาย คุณค่า และความสวยงามของประชาธิปไตย - ประจักษ์ ก้องกีรติ



Download

"จะต้มคนไทยไปทำไม” โดย วัฒนา เมืองสุข

"จะต้มคนไทยไปทำไม"

คนที่ติดตามผลการพิจารณาบทเฉพาะกาลของ กรธ. คงคิดเหมือนผมว่า กรธ. จะมาต้มคนไทยไปเพื่ออะไร ถ้า กรธ. แถลงอย่างลูกผู้ชายว่า กรธ. ต้องทำตามข้อเสนอของ คสช. เพราะเป็นคนตั้งพวกเค้ามา ผมก็คงจะให้อภัยเพราะเผด็จการตั้งท่านท่านก็ย่อมรับใช้เผด็จการ แต่การที่ กรธ. มาแถลงโดยอ้างเหตุผลที่ต้องทำเพื่อ "ป้องกันไม่ให้ระบอบประชาธิปไตยและความมั่นคงของชาติล้มครืนลง" นั้น เป็นสิ่งที่ผมรับไม่ได้ โดยเฉพาะคำว่า "ประชาธิปไตย" แปลว่าประชาชนเป็นใหญ่หรืออำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชน จึงไม่คู่ควรที่ กรธ. จะเอ่ยอ้างคำนี้ให้แปดเปื้อน

คสช. เสนอขอปรับปรุงบทเฉพาะกาลมา 3 เรื่อง เลยกรอบระยะเวลาที่ กรธ. กำหนดถึงเกือบหนึ่งเดือน แต่ กรธ. กลับรับไว้ดำเนินการให้ทั้งที่ผิดเงื่อนไข ส่วนผลการพิจารณาผมมีความเห็นดังนี้

(1) การที่ กรธ. ยืนยันวิธีการเลือก ส.ส. ให้เป็นไปตามเดิม ไม่ได้เป็นการคุ้มครองสิทธิประชาชนเพราะรูปแบบการเลือกตั้งที่ กรธ. กำหนดไว้แต่แรกนั้นก็คือการจำกัดสิทธิประชาชนอยู่แล้ว
(2) การให้มี ส.ว. จากการสรรหาจำนวน 250 คน คือการทำตามข้อเสนอทั้งหมด ส่วนที่อ้างว่า 50 คนขอให้มาจากสาขาวิชาชีพที่ กรธ. กำหนดก็ไม่ได้ทำให้มีผลเปลี่ยนแปลง เพราะสุดท้ายก็คือ ส.ว. มาจากการสรรหาทั้ง 250 คน สำหรับ 6 คนที่ยกเว้นให้เป็นข้าราชการประจำได้ก็คือ 6 ตำแหน่งที่ขอไว้ให้ ผบ. เหล่าทัพนั่นเอง ส่วนที่อ้างว่าไม่ได้ให้อำนาจ ส.ว. เปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจและลงมติ ก็ไม่ได้ทำให้ ส.ว. สรรหามีอำนาจน้อยลง เพราะยังมีอำนาจผลักดันกฎหมายการปฏิรูปที่ตีความได้กว้างขวางมาก มีสิทธิลงมติเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เมื่อรวมกับอำนาจที่มีในร่างเดิมแล้วสามารถขัดขวางการทำงานของตัวแทนที่มาจากประชาชนได้ทุกเรื่อง
(3) ส่วนเงื่อนไขที่กำหนดว่า การเลือกนายกจากบุคคลที่ไม่เคยถูกพรรคการเมืองเสนอชื่อต้องใช้เสียง 2/3 ของรัฐสภาคือ 500 คน จึงจะเปิดประชุมเพื่อพิจารณาเรื่องนี้ได้ นั้น ฝ่าย คสช. มี ส.ว. สรรหาที่พร้อมจะยกมือทันที 250 คน เมื่อรวมกับพรรคอื่นๆ ที่พร้อมจะร่วมจัดตั้งรัฐบาล ก็มีเสียงเกิน 500 คน สามารถเรียกประชุมได้แล้ว ส่วนการยกมือเลือกนายกที่อยากมีอำนาจแต่ขี้ขลาดไม่กล้าแสดงตัว ใช้เสียงเพียงเกินกึ่งหนึ่งหรือ 251 เสียงเท่านั้น จึงแย่เสียยิ่งกว่าร่างของนายบวรศักดิ์ที่กำหนดให้ต้องได้รับเสียงสนับสนุน 2/3 ของ ส.ส. ทั้งหมด

ผมไม่มีความเห็นกับข้อเสนอของ คสช. เพราะเป็นเผด็จการที่ยึดอำนาจมาจากประชาชน ก็ย่อมต้องทำทุกทางเพื่อปกป้องอำนาจของตน แต่สิ่งที่ กรธ. ดำเนินการมานั้นคือการเอาอำนาจของประชาชนไปมอบให้กับตัวแทนของเผด็จการ ส่วนผมเป็นนักการเมืองที่มาจากประชาชนมีหน้าที่ปกป้องผลประโยชน์เพื่อสนองคุณข้าวแดงแกงร้อนของประชาชน จากนี้ไปจึงเหลือทางเดียวคือประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจจะต้องออกมาปกป้องสิทธิของตนเองด้วยการออกเสียงลงประชามติ ซึ่งทุกคนต้องยอมรับการตัดสินใจของประชาชน วันที่ 7 สิงหาคม 2559 เป็นวันออกเสียงลงประชามติ มาพิสูจน์กันว่าเผด็จการที่ใหนในโลกไม่มีทางใหญ่กว่าประชาชน "เผด็จการจงพินาศ ประชาธิปไตยจงเจริญ"

วัฒนา เมืองสุข
23 มีนาคม 2559