Sunday, March 13, 2016
8 เหตุผลทำไมไม่ควรรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับมีชัย!!!
Credit: http://thaienews.blogspot.com/2016/03/8.html?m=1
BY BOURNE
ช่วงนี้กระแสวิพากษ์วิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญฉบับล่าสุด ที่มีนายมีชัย ฤชุพันธ์ เป็นประธานกรรมาธิการยกร่าง(กรธ.) ถือว่ามีอยู่อย่างต่อเนื่องทั้งจากภายในและภายนอกประเทศ ไม่ว่าจะโดยนักการเมือง นักวิชาการ นักกิจกรรม หรือแม้แต่ประชาชน โดยเฉพาะในประเด็นเรื่องของการสืบทอดอำนาจของคณะคสช. และการมีส่วนร่วมของประชาชน
ซึ่งแม้ร่างรัฐธรรมนูญดังกล่าวยังต้องผ่านการปรับปรุงตามคำแนะนำของครม. สนช. และสปท. แต่เนื้อหาสาระก็ดูไม่ได้มีความเป็นประชาธิปไตยเพิ่มมากขึ้นแต่อย่างใด วันนี้ทีมงาน iSpace Thailand จึงขอนำเสนอ 8 เหตุผลที่ประชาชนไทยควรพิจารณาก่อนที่จะลงประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้
1. ที่มาขอนายกรัฐมนตรี ตามร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้มาตรา 83,153 และ 154 กำหนดให้พรรคการเมืองต้องแจ้งชื่อผู้ที่จะเสนอให้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อ กกต. เพื่อประกาศให้ประชาชนรับทราบ แต่มิได้กำหนดให้ผู้ที่ถูกเสนอชื่อต้องเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ สมาชิกพรรคการเมือง จึงเป็นการเปิดช่องให้นายกรัฐมนตรีนั้นมาจากคนนอกซึ่งไม่ต้องลงสมัครรับ เลือกตั้งแต่อย่างใด
2. ที่มาของสมาชิกวุฒิสภา มาตรา 102 กำหนดให้ที่มาของสมาชิกวุฒิสภาจำนวน 200 คน มาจากการเลือกกันเองของกลุ่มบุคคลที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ อาชีพ ลักษณะหรือประโยชน์ร่วมกัน ซึ่งไม่แตกต่างจากการแต่งตั้ง เนื่องจากกลุ่มบุคคลที่จะเข้าไปเลือกสมาชิกวุฒิสภาก็มาจากการสรรหาไม่ใช่การ เลือกตั้งของประชาชน ทำให้สมาชิกวุฒิสภาไม่ยึดโยงกับประชาชน และถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการสืบทอดอำนาจของคณะคสช.
3. สิทธิด้านสาธารณสุข เดิมทีรัฐธรรมนูญ 2540 ในมาตรา 52 และรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 51 กำหนดให้บุคคลย่อมมีสิทธิเสมอกันในการรับบริการทางสาธารณสุขที่เหมาะสมและ ได้มาตรฐาน และผู้ยากไร้มีสิทธิได้รับการรักษาพยาบาลจากสถานบริการสาธารณสุขของรัฐโดย ไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่ในร่างรัฐธรรมนูญฉบับมีชัยนั้น มาตรา 51 ได้มีการตัดสิทธิของผู้ยากไร้ในการรักษาพยาบาลกับสถานพยาบาลของรัฐโดยไม่ เสียค่าใช้จ่ายออกไป
4. การตรวจสอบถ่วงดุลอำนาจรัฐโดยองค์กรอิสระไม่มีความยึดโยงกับประชาชน เนื่องจากที่มาขององค์กรอิสระต่างๆ ทั้งคณะกรรมการการเลือกตั้ง ผู้ตรวจการแผ่นดิน คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ มาจากการแต่งตั้งตามคำแนะนำของวุฒิสภา แต่ที่มาของวุฒิสภาตามร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้มีที่มาจากการเลือกกันเองของ กลุ่มบุคคล ไม่ใช่จากการเลือกตั้งของประชาชน ดังนั้นกระบวนการตรวจสอบอำนาจรัฐ จากองค์กรอิสระจึงไม่มีความยึดโยงกับประชาชน
5. อำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ ตามร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้เพิ่มขึ้นอย่างมาก ตามมาตรา 205(2) ที่กำหนดให้ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจพิจารณาวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และ อำนาจของ ส.ส. ส.ว. รัฐสภา คณะรัฐมนตรี และองค์กรอิสระ ซึ่งทำให้ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจเหนือกว่าอำนาจบริหาร และนิติบัญญัติ
การแก้ไขรัฐธรรมนูญทำได้ยาก เพราะมาตรา 253(3) ในขั้นตอนการออกเสียงลงคะแนนแก้ไข
7. ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนายมีชัย อาจเปิดช่องให้มีการสืบทอดอำนาจของคณะรัฐประหาร ผ่านช่องทางการคัดเลือกกลุ่มบุคคลเพื่อมาเลือกสมาชิกวุฒิสภา และองค์กรอิสระ
8. ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ มีการนิรโทษกรรมคณะคสช. และกำหนดให้ประกาศ คำสั่ง การกระทำ รวมถึงการปฏิบัติตามประกาศ คำสั่งของคณะคสช. นั้นชอบด้วยร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ตามมาตรา 270
จะเห็นได้ว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับมีชัยนี้ มีหลายบทบัญญัติที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ไม่ยึดโยงกับประชาชน ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเปิดช่องให้มีการสืบทอดอำนาจของคณะรัฐประหาร รวมทั้งมีการนิรโทษกรรมคณะรัฐประหาร คำถามคือเมื่อรู้เช่นนี้แล้ว ประชาชนไทยยังควรที่จะรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้หรือไม่???
Reference
http://www.posttoday.com/politic/413073
8 เหตุผลทำไมไม่ควรรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับมีชัย!!!
BY BOURNE
ON MARCH 11, 2016
ช่วงนี้กระแสวิพากษ์วิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญฉบับล่าสุด ที่มีนายมีชัย ฤชุพันธ์ เป็นประธานกรรมาธิการยกร่าง(กรธ.) ถือว่ามีอยู่อย่างต่อเนื่องทั้งจากภายในและภายนอกประเทศ ไม่ว่าจะโดยนักการเมือง นักวิชาการ นักกิจกรรม หรือแม้แต่ประชาชน โดยเฉพาะในประเด็นเรื่องของการสืบทอดอำนาจของคณะคสช. และการมีส่วนร่วมของประชาชน
ซึ่งแม้ร่างรัฐธรรมนูญดังกล่าวยังต้องผ่านการปรับปรุงตามคำแนะนำของครม. สนช. และสปท. แต่เนื้อหาสาระก็ดูไม่ได้มีความเป็นประชาธิปไตยเพิ่มมากขึ้นแต่อย่างใด วันนี้ทีมงาน iSpace Thailand จึงขอนำเสนอ 8 เหตุผลที่ประชาชนไทยควรพิจารณาก่อนที่จะลงประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้
1. ที่มาขอนายกรัฐมนตรี ตามร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้มาตรา 83,153 และ 154 กำหนดให้พรรคการเมืองต้องแจ้งชื่อผู้ที่จะเสนอให้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อ กกต. เพื่อประกาศให้ประชาชนรับทราบ แต่มิได้กำหนดให้ผู้ที่ถูกเสนอชื่อต้องเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ สมาชิกพรรคการเมือง จึงเป็นการเปิดช่องให้นายกรัฐมนตรีนั้นมาจากคนนอกซึ่งไม่ต้องลงสมัครรับ เลือกตั้งแต่อย่างใด
2. ที่มาของสมาชิกวุฒิสภา มาตรา 102 กำหนดให้ที่มาของสมาชิกวุฒิสภาจำนวน 200 คน มาจากการเลือกกันเองของกลุ่มบุคคลที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ อาชีพ ลักษณะหรือประโยชน์ร่วมกัน ซึ่งไม่แตกต่างจากการแต่งตั้ง เนื่องจากกลุ่มบุคคลที่จะเข้าไปเลือกสมาชิกวุฒิสภาก็มาจากการสรรหาไม่ใช่การ เลือกตั้งของประชาชน ทำให้สมาชิกวุฒิสภาไม่ยึดโยงกับประชาชน และถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการสืบทอดอำนาจของคณะคสช.
3. สิทธิด้านสาธารณสุข เดิมทีรัฐธรรมนูญ 2540 ในมาตรา 52 และรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 51 กำหนดให้บุคคลย่อมมีสิทธิเสมอกันในการรับบริการทางสาธารณสุขที่เหมาะสมและ ได้มาตรฐาน และผู้ยากไร้มีสิทธิได้รับการรักษาพยาบาลจากสถานบริการสาธารณสุขของรัฐโดย ไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่ในร่างรัฐธรรมนูญฉบับมีชัยนั้น มาตรา 51 ได้มีการตัดสิทธิของผู้ยากไร้ในการรักษาพยาบาลกับสถานพยาบาลของรัฐโดยไม่ เสียค่าใช้จ่ายออกไป
4. การตรวจสอบถ่วงดุลอำนาจรัฐโดยองค์กรอิสระไม่มีความยึดโยงกับประชาชน เนื่องจากที่มาขององค์กรอิสระต่างๆ ทั้งคณะกรรมการการเลือกตั้ง ผู้ตรวจการแผ่นดิน คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ มาจากการแต่งตั้งตามคำแนะนำของวุฒิสภา แต่ที่มาของวุฒิสภาตามร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้มีที่มาจากการเลือกกันเองของ กลุ่มบุคคล ไม่ใช่จากการเลือกตั้งของประชาชน ดังนั้นกระบวนการตรวจสอบอำนาจรัฐ จากองค์กรอิสระจึงไม่มีความยึดโยงกับประชาชน
5. อำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ ตามร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้เพิ่มขึ้นอย่างมาก ตามมาตรา 205(2) ที่กำหนดให้ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจพิจารณาวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และ อำนาจของ ส.ส. ส.ว. รัฐสภา คณะรัฐมนตรี และองค์กรอิสระ ซึ่งทำให้ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจเหนือกว่าอำนาจบริหาร และนิติบัญญัติ
การแก้ไขรัฐธรรมนูญทำได้ยาก เพราะมาตรา 253(3) ในขั้นตอนการออกเสียงลงคะแนนแก้ไข
6. รัฐธรรมนูญในขั้นรับหลักการต้องมีสมาชิกวุฒิสภาเห็นชอบด้วยไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของจำนวนสมาชิกวุฒิสภาทั้งหมด ดังนั้นการแก้ไขรัฐธรรมนูญจึงไม่สามารถทำได้ หากไม่ได้รับความเห็นชอบจากสมาชิกวุฒิสภาซึ่งมาจากการเลือกกันเองของกลุ่ม บุคคล
7. ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนายมีชัย อาจเปิดช่องให้มีการสืบทอดอำนาจของคณะรัฐประหาร ผ่านช่องทางการคัดเลือกกลุ่มบุคคลเพื่อมาเลือกสมาชิกวุฒิสภา และองค์กรอิสระ
8. ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ มีการนิรโทษกรรมคณะคสช. และกำหนดให้ประกาศ คำสั่ง การกระทำ รวมถึงการปฏิบัติตามประกาศ คำสั่งของคณะคสช. นั้นชอบด้วยร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ตามมาตรา 270
จะเห็นได้ว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับมีชัยนี้ มีหลายบทบัญญัติที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ไม่ยึดโยงกับประชาชน ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเปิดช่องให้มีการสืบทอดอำนาจของคณะรัฐประหาร รวมทั้งมีการนิรโทษกรรมคณะรัฐประหาร คำถามคือเมื่อรู้เช่นนี้แล้ว ประชาชนไทยยังควรที่จะรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้หรือไม่???
Reference
http://www.posttoday.com/politic/413073
ดาอยากด่า ตอน .. " คนในคอก กับ คนนอกคอก"
|||
ดาอยากด่า ตอน .. " คนในคอก กับ คนนอกคอก"
ขอบคุณเจ้าหน้าที่สหรัฐอเมริกา ที่แยกแยะ มนุษย์ควาย กับมนุษย์คน
ออกจากกันได้ช้าาาาดดดดด เจนนนน สุดๆ เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2016
ที่หน้าสถาบันนโยบายโลก(WORLD POLICY INSTITUTE)
ที่พณฯ ท่าน พันตำรวจโท ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 23
ของประเทศไทย.. (ยืนยันว่าตั้งใจเขียนคำนำหน้าชื่อท่าน เพราะท่านยังคงดำรงตำแหน่งนี้อยู่ในสายตาโลกและถูกต้องตามกฏหมาย) ได้เดินทางมาปาฐกถา ในงาน "สนทนาส่วนตัวกับ ทักษิณ ชินวัตร" (THAKSIN SHINAWATRA IN PRIVATE DISCUSSION)
พวกสลิ่มเหลืองนกหวีด ที่มาประท้วงถูกต้อนให้อยู่ในคอกเหล็กกั้น
ส่วนชาวไทยใจเสรีในสหรัฐ ที่มาให้กำลังใจและต้อนรับ ท่านนายกทักษิณ
ก็ได้รับอนุญาติยืนเรียงรายชูป้ายอย่างเสรีมีระเบียบสวยงามเป็นคนนอกคอก
นอกกะลา 55555
*************************
องค์ความรู้ที่ ดร. ทักษิณ มอบให้
สิ่งที่นายกฯ ทักษิณ ให้องค์ความรู้
กับรัฐบาลนี้คือ New Normal
New Normal คือ
ความปกติรูปแบบใหม่ที่ไม่ปกติ !
มีความหมายสื่อไปในทำนองที่ว่า
ความยากลำบากทั้งหลาย
ที่องค์กรทั่วโลกกำลังเผชิญ
ไม่ใช่สถานการณ์ชั่วคราว
ที่จะอันตรธานไปเองในไม่ช้า
แต่จะดำรงอยู่ต่อไปนานพอสมควร
ความยากลำบากดังกล่าวจึงเป็นเสมือน
มาตรฐานใหม่ที่องค์กรทั้งหลาย
ต้องทำใจยอมรับว่า
เป็นสถานการณ์ปกติในการดำเนินธุรกิจ
"New Normal"
เป็นคำพูดที่ไม่เพียงแต่จะช่วยปลุกให้
องค์กรทั้งหลายตื่นขึ้นมารับรู้ความเป็นจริง
ที่เปลี่ยนแปลงไป
ยังให้ค้นหาหนทางฟันฝ่าวิกฤตด้วย
แต่ยังจะช่วยให้ทุกองค์กร
สามารถสร้างความสำเร็จ
ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ไม่เคยมีมาก่อน
New Normal : ความปกติรูปแบบใหม่ที่ไม่ปกติ
บางคนมักจะคิดว่า
ถ้าสามารถประคองตัว
ให้ผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้
ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะกลับคืนสู่ภาวะปกติอีกครั้ง
แต่ขอให้พวกเขาเลิกคิดเช่นนั้น
เพราะสถานการณ์ที่เรากำลังเผชิญ
คือ ภาวะปกติแบบใหม่
(This is the new normal.)
สถานการณ์ที่ทุกคนกำลังเผชิญ
คือ ประกาศิตของโลกยุคใหม่
เราต้องสามารถบริหารธุรกิจ
ภายใต้เงื่อนไขใหม่ให้ได้ เช่น
Narrow Your Focus :
จัดสรรทรัพยากรอย่างถูกต้อง !
องค์กรต้องทราบว่า
ธุรกิจใดเป็นจุดแข็งและจุดอ่อน
และจัดสรรงบประมาณให้สอดคล้อง
กับศักยภาพของแต่ละธุรกิจ
ต้อง เตือนองค์กรต่างๆ
ให้ระวังการหมกมุ่นอยู่กับ
การแก้ปัญหาในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ
จนลืมความสำคัญ
ของการวางแผนสำหรับอนาคต
Aggressively Leverage What
You Can Control : รุกคืบไปในเรื่องที่
องค์กรควบคุมได้!
ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจ
ผู้บริหารจำเป็นต้องมองหาสิ่งที่เป็นประโยชน์
กับองค์กร ที่สามารถทำได้
โดยไม่ต้องรอให้เศรษฐกิจฟื้นตัวอีกครั้ง
"Obsessively Search For the Right Growth"
: เร่งหาพื้นที่ในการเติบโต
ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจถดถอย
องค์กรต่างๆ ก็จำเป็นต้องแสวงหาโอกาสในการเติบโต
Keep Building : สร้างความแข็งแกร่งต่อไป
โดยทั่วไปองค์กรที่ประสบกับปัญหายอดขาย
และผลประกอบการตกต่ำ
มักจะพยายามลดค่าใช้จ่ายต่างๆ ลง
ซึ่งเป็นวิธีการที่ไม่ผิด
แต่ต้องไม่ใช่การลดค่าใช้จ่าย
ด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์
นวัตกรรม และการสร้างตราสินค้า
เนื่องจากเป็นวิธีการที่จะทำลายความแข็งแกร่ง
ในอนาคต เพียงเพื่อบรรเทาปัญหาในปัจจุบัน
ศักยภาพของบุคลากรเป็นอีกสิ่งหนึ่ง
ที่องค์กรต้องเร่งพัฒนาในช่วงเวลาวิกฤต
วิกฤตเศรษฐกิจยังเป็นช่วงเวลา
ที่ดีที่สุดในการช่วงชิงบุคลากรหัวกะทิของคู่แข่ง
เนื่องจากผลประโยชน์ที่ลดลงในองค์กรเดิม
อาจจะทำให้บุคลากรเหล่านั้น
ตัดสินใจย้ายงานได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
ทั้งหมดนี้ คือส่วนหนึ่ง
ที่นายกฯทักษิณ มอบให้ ไปคิด
และต่อยอดองค์ความรู้
เพื่อนำมาแก้ไข
ภายใต้วิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นกับประเทศไทย
@เฟช เฟช กรุงเทพ
[ทักษิณ โพสต์รูปโชว์ ท่องเที่ยวน้ำตก "ไนแองการา"] นั้นดี ลองตัวสิ!
[ทักษิณ โพสต์รูปโชว์ ท่องเที่ยวน้ำตก "ไนแองการา"] นั้นดี ลองตัวสิ! http://www.matichon.co.th/news/68954
ข้อคิดจากการพูดของนายกทักษิณ จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รายการชี้ผิดชี้ถูก 13mar2016
ข้อคิดจากการพูดของนายกทักษิณ จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รายการชี้ผิดชี้ถูก 13mar2016
Media Force
ไฟเย็น พบประชาชน และ ลุงสนามหลวง # 57
12-03-2016
>>>
ไฟเย็นพบประชาชน #57 ... ต่อ
>>>
รายการ News Force 12 มีนา 2559 อ. หวาน
"โลกหนุนทักษิณ หวั่นทหารราชาพาถอยหลัง"
>>>
รายการ L.A.Meeting 12Mar2016
อ. สุรชัย แซ่ด่าน
8 เหตุผลทำไมไม่ควรรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับมีชัย!!!
8 เหตุผลทำไมไม่ควรรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับมีชัย!!!
http://thaienews.blogspot.com/2016/03/8.html?m=1
BY BOURNE
ช่วงนี้กระแสวิพากษ์วิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญฉบับล่าสุด ที่มีนายมีชัย ฤชุพันธ์ เป็นประธานกรรมาธิการยกร่าง(กรธ.) ถือว่ามีอยู่อย่างต่อเนื่องทั้งจากภายในและภายนอกประเทศ ไม่ว่าจะโดยนักการเมือง นักวิชาการ นักกิจกรรม หรือแม้แต่ประชาชน โดยเฉพาะในประเด็นเรื่องของการสืบทอดอำนาจของคณะคสช. และการมีส่วนร่วมของประชาชน
ซึ่งแม้ร่างรัฐธรรมนูญดังกล่าวยังต้องผ่านการปรับปรุงตามคำแนะนำของครม. สนช. และสปท. แต่เนื้อหาสาระก็ดูไม่ได้มีความเป็นประชาธิปไตยเพิ่มมากขึ้นแต่อย่างใด วันนี้ทีมงาน iSpace Thailand จึงขอนำเสนอ 8 เหตุผลที่ประชาชนไทยควรพิจารณาก่อนที่จะลงประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้
1. ที่มาขอนายกรัฐมนตรี ตามร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้มาตรา 83,153 และ 154 กำหนดให้พรรคการเมืองต้องแจ้งชื่อผู้ที่จะเสนอให้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อ กกต. เพื่อประกาศให้ประชาชนรับทราบ แต่มิได้กำหนดให้ผู้ที่ถูกเสนอชื่อต้องเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ สมาชิกพรรคการเมือง จึงเป็นการเปิดช่องให้นายกรัฐมนตรีนั้นมาจากคนนอกซึ่งไม่ต้องลงสมัครรับ เลือกตั้งแต่อย่างใด
2. ที่มาของสมาชิกวุฒิสภา มาตรา 102 กำหนดให้ที่มาของสมาชิกวุฒิสภาจำนวน 200 คน มาจากการเลือกกันเองของกลุ่มบุคคลที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ อาชีพ ลักษณะหรือประโยชน์ร่วมกัน ซึ่งไม่แตกต่างจากการแต่งตั้ง เนื่องจากกลุ่มบุคคลที่จะเข้าไปเลือกสมาชิกวุฒิสภาก็มาจากการสรรหาไม่ใช่การ เลือกตั้งของประชาชน ทำให้สมาชิกวุฒิสภาไม่ยึดโยงกับประชาชน และถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการสืบทอดอำนาจของคณะคสช.
3. สิทธิด้านสาธารณสุข เดิมทีรัฐธรรมนูญ 2540 ในมาตรา 52 และรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 51 กำหนดให้บุคคลย่อมมีสิทธิเสมอกันในการรับบริการทางสาธารณสุขที่เหมาะสมและ ได้มาตรฐาน และผู้ยากไร้มีสิทธิได้รับการรักษาพยาบาลจากสถานบริการสาธารณสุขของรัฐโดย ไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่ในร่างรัฐธรรมนูญฉบับมีชัยนั้น มาตรา 51 ได้มีการตัดสิทธิของผู้ยากไร้ในการรักษาพยาบาลกับสถานพยาบาลของรัฐโดยไม่ เสียค่าใช้จ่ายออกไป
4. การตรวจสอบถ่วงดุลอำนาจรัฐโดยองค์กรอิสระไม่มีความยึดโยงกับประชาชน เนื่องจากที่มาขององค์กรอิสระต่างๆ ทั้งคณะกรรมการการเลือกตั้ง ผู้ตรวจการแผ่นดิน คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ มาจากการแต่งตั้งตามคำแนะนำของวุฒิสภา แต่ที่มาของวุฒิสภาตามร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้มีที่มาจากการเลือกกันเองของ กลุ่มบุคคล ไม่ใช่จากการเลือกตั้งของประชาชน ดังนั้นกระบวนการตรวจสอบอำนาจรัฐ จากองค์กรอิสระจึงไม่มีความยึดโยงกับประชาชน
5. อำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ ตามร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้เพิ่มขึ้นอย่างมาก ตามมาตรา 205(2) ที่กำหนดให้ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจพิจารณาวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และ อำนาจของ ส.ส. ส.ว. รัฐสภา คณะรัฐมนตรี และองค์กรอิสระ ซึ่งทำให้ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจเหนือกว่าอำนาจบริหาร และนิติบัญญัติ
การแก้ไขรัฐธรรมนูญทำได้ยาก เพราะมาตรา 253(3) ในขั้นตอนการออกเสียงลงคะแนนแก้ไข
7. ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนายมีชัย อาจเปิดช่องให้มีการสืบทอดอำนาจของคณะรัฐประหาร ผ่านช่องทางการคัดเลือกกลุ่มบุคคลเพื่อมาเลือกสมาชิกวุฒิสภา และองค์กรอิสระ
8. ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ มีการนิรโทษกรรมคณะคสช. และกำหนดให้ประกาศ คำสั่ง การกระทำ รวมถึงการปฏิบัติตามประกาศ คำสั่งของคณะคสช. นั้นชอบด้วยร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ตามมาตรา 270
จะเห็นได้ว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับมีชัยนี้ มีหลายบทบัญญัติที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ไม่ยึดโยงกับประชาชน ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเปิดช่องให้มีการสืบทอดอำนาจของคณะรัฐประหาร รวมทั้งมีการนิรโทษกรรมคณะรัฐประหาร คำถามคือเมื่อรู้เช่นนี้แล้ว ประชาชนไทยยังควรที่จะรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้หรือไม่???
Reference
http://www.posttoday.com/politic/413073
BY BOURNE
ON MARCH 11, 2016
ช่วงนี้กระแสวิพากษ์วิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญฉบับล่าสุด ที่มีนายมีชัย ฤชุพันธ์ เป็นประธานกรรมาธิการยกร่าง(กรธ.) ถือว่ามีอยู่อย่างต่อเนื่องทั้งจากภายในและภายนอกประเทศ ไม่ว่าจะโดยนักการเมือง นักวิชาการ นักกิจกรรม หรือแม้แต่ประชาชน โดยเฉพาะในประเด็นเรื่องของการสืบทอดอำนาจของคณะคสช. และการมีส่วนร่วมของประชาชน
ซึ่งแม้ร่างรัฐธรรมนูญดังกล่าวยังต้องผ่านการปรับปรุงตามคำแนะนำของครม. สนช. และสปท. แต่เนื้อหาสาระก็ดูไม่ได้มีความเป็นประชาธิปไตยเพิ่มมากขึ้นแต่อย่างใด วันนี้ทีมงาน iSpace Thailand จึงขอนำเสนอ 8 เหตุผลที่ประชาชนไทยควรพิจารณาก่อนที่จะลงประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้
1. ที่มาขอนายกรัฐมนตรี ตามร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้มาตรา 83,153 และ 154 กำหนดให้พรรคการเมืองต้องแจ้งชื่อผู้ที่จะเสนอให้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อ กกต. เพื่อประกาศให้ประชาชนรับทราบ แต่มิได้กำหนดให้ผู้ที่ถูกเสนอชื่อต้องเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ สมาชิกพรรคการเมือง จึงเป็นการเปิดช่องให้นายกรัฐมนตรีนั้นมาจากคนนอกซึ่งไม่ต้องลงสมัครรับ เลือกตั้งแต่อย่างใด
2. ที่มาของสมาชิกวุฒิสภา มาตรา 102 กำหนดให้ที่มาของสมาชิกวุฒิสภาจำนวน 200 คน มาจากการเลือกกันเองของกลุ่มบุคคลที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ อาชีพ ลักษณะหรือประโยชน์ร่วมกัน ซึ่งไม่แตกต่างจากการแต่งตั้ง เนื่องจากกลุ่มบุคคลที่จะเข้าไปเลือกสมาชิกวุฒิสภาก็มาจากการสรรหาไม่ใช่การ เลือกตั้งของประชาชน ทำให้สมาชิกวุฒิสภาไม่ยึดโยงกับประชาชน และถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการสืบทอดอำนาจของคณะคสช.
3. สิทธิด้านสาธารณสุข เดิมทีรัฐธรรมนูญ 2540 ในมาตรา 52 และรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 51 กำหนดให้บุคคลย่อมมีสิทธิเสมอกันในการรับบริการทางสาธารณสุขที่เหมาะสมและ ได้มาตรฐาน และผู้ยากไร้มีสิทธิได้รับการรักษาพยาบาลจากสถานบริการสาธารณสุขของรัฐโดย ไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่ในร่างรัฐธรรมนูญฉบับมีชัยนั้น มาตรา 51 ได้มีการตัดสิทธิของผู้ยากไร้ในการรักษาพยาบาลกับสถานพยาบาลของรัฐโดยไม่ เสียค่าใช้จ่ายออกไป
4. การตรวจสอบถ่วงดุลอำนาจรัฐโดยองค์กรอิสระไม่มีความยึดโยงกับประชาชน เนื่องจากที่มาขององค์กรอิสระต่างๆ ทั้งคณะกรรมการการเลือกตั้ง ผู้ตรวจการแผ่นดิน คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ มาจากการแต่งตั้งตามคำแนะนำของวุฒิสภา แต่ที่มาของวุฒิสภาตามร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้มีที่มาจากการเลือกกันเองของ กลุ่มบุคคล ไม่ใช่จากการเลือกตั้งของประชาชน ดังนั้นกระบวนการตรวจสอบอำนาจรัฐ จากองค์กรอิสระจึงไม่มีความยึดโยงกับประชาชน
5. อำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ ตามร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้เพิ่มขึ้นอย่างมาก ตามมาตรา 205(2) ที่กำหนดให้ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจพิจารณาวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และ อำนาจของ ส.ส. ส.ว. รัฐสภา คณะรัฐมนตรี และองค์กรอิสระ ซึ่งทำให้ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจเหนือกว่าอำนาจบริหาร และนิติบัญญัติ
การแก้ไขรัฐธรรมนูญทำได้ยาก เพราะมาตรา 253(3) ในขั้นตอนการออกเสียงลงคะแนนแก้ไข
6. รัฐธรรมนูญในขั้นรับหลักการต้องมีสมาชิกวุฒิสภาเห็นชอบด้วยไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของจำนวนสมาชิกวุฒิสภาทั้งหมด ดังนั้นการแก้ไขรัฐธรรมนูญจึงไม่สามารถทำได้ หากไม่ได้รับความเห็นชอบจากสมาชิกวุฒิสภาซึ่งมาจากการเลือกกันเองของกลุ่ม บุคคล
7. ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนายมีชัย อาจเปิดช่องให้มีการสืบทอดอำนาจของคณะรัฐประหาร ผ่านช่องทางการคัดเลือกกลุ่มบุคคลเพื่อมาเลือกสมาชิกวุฒิสภา และองค์กรอิสระ
8. ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ มีการนิรโทษกรรมคณะคสช. และกำหนดให้ประกาศ คำสั่ง การกระทำ รวมถึงการปฏิบัติตามประกาศ คำสั่งของคณะคสช. นั้นชอบด้วยร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ตามมาตรา 270
จะเห็นได้ว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับมีชัยนี้ มีหลายบทบัญญัติที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ไม่ยึดโยงกับประชาชน ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเปิดช่องให้มีการสืบทอดอำนาจของคณะรัฐประหาร รวมทั้งมีการนิรโทษกรรมคณะรัฐประหาร คำถามคือเมื่อรู้เช่นนี้แล้ว ประชาชนไทยยังควรที่จะรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้หรือไม่???
Reference
http://www.posttoday.com/politic/413073
Subscribe to:
Comments (Atom)






